บรรยากาศรอบวัดเมืองนารา Japan

เมืองนาราประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นเมืองขึ้นชื่อในเรื่องของกวางอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเมืองนารา หลังจากไหว้พระขอพรวัดดังในเมืองนาราหลายที่แล้ว นิยมจะออกมาเดินเล่นตามสวนสาธารณะ บริเวณใกล้ๆวัด อย่างเช่นที่ วัดโทไดจิ Todaiji Temple ก็จะมีส่วนสาธารณะขนาดใหญ่และป่าไม้ต้นไม้โดยรอบวัด ทำให้มีกวาง จำนวนมากอยู่อาศัย นักท่องเที่ยวก็มักนิยมถ่ายรูปคู่กับกวาง ให้อาหารกวาง และเล่นกับกวาง เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กๆที่มาเที่ยวก็จะตื่นเต้นกับฝูงกวางจำนวนมากบริเวณนั้น

นอกจากนี้ยังมีสัตว์ชนิดอื่นอีก แต่ที่เห็นชัดว่ามีแน่นอนและให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังเวลาเดินเที่ยวชมก็คือ หมูป่า เพราะจะมีการติดป้ายให้ระวังอันตรายจากหมูป่าด้วย แสดงให้เห็นว่าเมืองนารา แม้ว่าจะเป็นเมืองเล็กๆในญี่ปุ่น แต่ก็ยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแหล่งธรรมชาติที่สามารถช่วยให้สัตว์ป่าประเภทต่างๆอาศัยอยู่ได้ หลังจากไหว้พระขอพรจากวัดดังที่นารานักท่องเที่ยวยังได้ซึมซับบรรยากาศธรรมชาติโดยเฉพาะฝูงกวางจำนวนมากอีกด้วย มีเพื่อนชาวญี่ปุ่นบอกว่า ความจริงแล้ว Nara ภาษาญี่ปุ่นนั้นก็แปลว่ากวาง ดังนั้นเมืองนี้ชื่อนาราก็เนื่องมาจากเป็นเมืองที่มีกวางอาศัยอยู่มากนั่นเอง

ไหว้พระใหญ่องค์โตที่นารา Japan

นาราเป็นเมืองเล็กที่ติดกับเมืองเกียวโตในแถบคันไซประเทศญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวหลายคนนิยมมาเที่ยวเกียวโตและแวะมาที่นาราเพราะอยู่ใกล้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่นาราจะมีวัดที่ชื่อว่า วัดโทไดจิ Todaiji temple เป็นวัดที่มีขนาดใหญ่มาก และมีที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ยักษ์มาก พระพุทธรูปองค์นี้ทำจากสำริด มีความสูง 16 เมตร มีน้ำหนักถึง 500 ตัน และยังเป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

คนไทยเราก็มักจะเรียกว่าพระใหญ่องค์โต แห่งเมืองนารา แน่นอนว่าวัดแห่งนี้ก็เป็นอีกจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่นิยมเดินทางมากราบไหว้สักการะบูชาและเก็บภาพ ยิ่งไปกว่านั้นสำหรับนักแสวงบุญชาวพุทธก็นิยมมาไหว้และพยายามรอดเสาทางด้านซ้ายของพระใหญ่ต้นหนึ่งที่ถูกเจาะรูไว้ โดยรูของเสาดังกล่าวนั้นมีขนาดเท่ากับจมูกของประใหญ่ เพราะเชื่อกันว่าถ้าใครสามารถรอดผ่านรูนี้ได้ก็จะได้บรรลุนิพาน หรือบ้างก็บอกว่าจะทำให้คำอธิฐานนั้นๆเป็นจริง ทำให้ที่เสาดังกล่าวมักจะมีผู้คนรวมไปถึงนักท่องเที่ยวมายื่นต่อแถวเพื่อให้ได้รอดรูเสาต้นนี้นั่นเอง

สถานที่: วัดโทไดจิ (Todaiji Temple)
วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Kintetsu Nara Station แล้วเดินไปอีกประมาณ 25 นาที
เวลาเปิด-ปิด: 8:00 – 17:00 น.
ค่าเข้าชม: 500 เยน

Proudly powered by WordPress | Theme: Baskerville 2 by Anders Noren.

Up ↑