วัดหวังต้าเซียนที่ฮ่องกง Wong Tai Sin Temple

หากใครไปเที่ยวฮ่องกงแล้วไม่ได้ไปวัดหวังต้าเซียนถือว่าไปไม่ถึงฮ่องกง เพราะทุกแผนเที่ยวของนักท่องเที่ยวที่ไปฮ่องกงนั้นต้องมี วัดหวังต้าเซียนอยู่ในแผนอย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นวัดที่มีชื่อเสียงในด้านขอพรความรัก ยิ่งสำหรับคนอยากขอความรัก ครองคู่รักกันยืนยาว หรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวกับความรักนั้น

ไปวัดนี้แล้วขอพรจากเทพเจ้าหยุคโหลว หรือเทพแห่งความรัก ก็จะสมหวังกันไป แต่ขั้นตอนการไหว้ก็จะมีวิธีที่พิเศษหากใครสนใจก็สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้

สำหรับการเดินทางมาวัดนี้ถือว่าสะดวกมาก เพราะนั่งรถไฟมาลงสถานี Wong Tai Sin แล้วออกทางออก B ขึ้นมาก็จะเจอ Temple Mall เดินมาอีกนิดก็จะถึงวัดหวังต้าเซียนเลย ทางเข้าหน้าวัดก็จะมีร้านขายธูปเทียนมากมายหลายร้านติดกัน เนื่องจากคนไทยไปเยอะก็มีร้านพี่คนไทยอยู่ร้านแรกเลย ใครไปก็ไปอุดหนุนคนไทยด้วยกันได้ แต่ตอนนี้ไปดูบรรยากาศวัดกันเลยจ้า

ขอพรไหว้เจ้าแม่กวนอิม เทพแห่งความรัก โชคลาภและเทพเจ้าต่างๆ @ Repulse Bay Beach

แลนด์มาร์คอีกที่นึงของฮ่องกงก็ต้อง การไหว้ขอพรเจ้าแม่กวนอิมที่หาด Repulse Bay อีกจุดมุ่งหมายของนักเดินทางที่มาเยือนฮ่องกงต้องแวะ วันนี้แอดมินเลยเก็บภาพและอยากบอกเล่ากันเดินทางการไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมที่หาด Repulse Bay สำหรับการมาไม่ยุ่งยากเลย เพียงแค่เรานั่ง MTR มาลงที่สถานี Central แล้วมาขึ้นรถบัสต่อ โดย CityBus สายที่ผ่าน หาด Repulse Bay ก็จะมีสาย 6A, 70, 75, 90, 97, 260 แต่แอดมินขึ้นสาย 260 นั่งยาวๆ ประมาณ 30 นาทีพอเห็นตึกที่มีช่องลมตรงกลางก็เตรียมลงป้ายหน้าได้เลย หลังจากนั้นก็เดินเลาะตามชายหาดไปจะเห็นประตูสีแดงและเห็น เจ้าแม่กวนอิม องค์ใหญ่มากๆ

สำหรับการมากราบไหว้ขอพรที่หาดนี้จะมีเทพหลายองค์ เช่น เจ้าแม่กวนอิม เทพเจ้าแห่งความรัก เทพเจ้าโชคลาภ และ เทพเจ้าต่างๆ หลายคนที่มาก็มักจะมาขอพรทั้งเรื่องโชคลาภ เงินทอง การเรียน การงาน การเงิน สุขภาพ และความรัก เนื่องจากภายในก็จะมีเทพเจ้าแห่งความรักที่หากคนมีคู่แล้วก็จะขอให้รักกันยาวนาน ส่วนคนโสดก็มาขอให้ได้เจอเนื้อคู่ และเชื่อกันว่า สมุดเล่มใหญ่ในมือของเทพแห่งความรักจะมีรายชื่อของหนุ่มสาวที่ท่านเทพจะประทานให้นั่นเอง ในส่วนของเทพเจ้าแห่งโชคลาภก็มักจะแนะนำให้เอาแบงค์มาลูบตั้งแต่ศรีษะ ผ่านหน้า มาถึงลำตัว ของเทพเจ้า แล้วเอาเข้ากระเป๋าตังค์ ประมาณว่านำเงินทองเข้ากระเป๋านั่นเอง โดยห้ามใช้แบงค์นั้นเลยนะต้องเก็บพกไว้ในกระเป๋าตังค์ตลอดเวลา อ่อและก็ยังมีสะพานอายุยืนด้วยนะเค้าเล่ากันว่าหากมาแล้วให้เดินข้ามสะพานนี้ถ้าเดินผ่าน 1 ครั้งจะทำให้อายุยืนเพิ่มขึ้นอีก 3 ปี ถ้าเดินข้ามไปแล้วห้ามเดินย้อนกลับ

เป็นไงกันบ้างสำหรับใครสายบุญที่ชอบการไหว้พระขอพรสิ่งศักสิทธิ์แอดมินแนะนำให้มาที่นี่ได้ครบทุกด้านเลยจริงๆนะ

ไหว้พระขอพรที่วัดหลงซาน Lungshan Temple

สำหรับชาวสายบุญหากได้ไปเที่ยวที่แห่งไหนจะต้องบวกการไหว้พระวัดดังเข้าไปในทริปเที่ยวด้วยอย่างแน่นอน ซึ่งแอดมินก็ไม่พลาดกับทริปไต้หวันนี้เช่นกัน เพราะหากใครมาไต้หวันก็อยากจะแนะนำให้มาไหว้พระขอพรที่ วัดหลงซาน Lungshan Temple เพราะที่นี่ขึ้นชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์มากๆ

นอกจากไหว้พระขอพรแล้วที่วัดหลงซาน แห่งนี้ยังมีเครื่องรางให้นักท่องเที่ยวซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านได้อีกด้วย บางคนก็ซื้อไว้เองหรือบางคนก็ซื้อไปเป็นของฝาก ซึ่งเครื่องรางที่นี่ก็จะมีสรรพคุณเฉพาะตัวแต่ละแบบกันไป บางอันเพื่อความรัก สุขภาพ การเรียน ครอบครัว ค้าขาย การงาน การเงิน หรือแม้แต่โชคดี ก็มีให้เลือก ใครสนใจลองแวะไปกันได้นะ ถ้ามีโอกาสไปเที่ยวไต้หวัน แอดมินแนะนำเลยจ้า

วิธีมาวัดหลงซานไม่ยากสะดวกมากๆ นั่งรถไฟ Blue line ลงสถานนี Longshan Temple เลยและออกทางออกที่ 1 หรือ ทางออก 3 ก็ได้ เดินแป๊บเดียวถึงเลย

มาเป็นแม่ครัวฝึกทำขนมที่ ABC Cooking Studio กันเถอะ

ถ้าใครสนใจการทำขนมหรืออยากฝึกลองทำขนมหรืออาหารวันนี้แอดมินมีโรงเรียนสอนทำขนมมาแนะนำ ชื่อว่า ABC Cooking Studio โดยสาขาที่แอดมินได้ไปลองฝึกเรียนทำขนมคือที่สาขา Central World บรรยากาศสถานที่ดูอบอุ่นมากๆ น่าเรียน มีอุปกรณ์ครบทุกอย่างในการทำขนม และพนักงานที่คอยดูและสอนแนะนำการทำขนมก็อธิบายได้ดีเข้าใจง่ายมากๆ ซึ่งขนมที่แอดมินฝึกทำคือ Gateau au Chocolate ชื่อดูฝรั่งเศษมากๆ 55+ โดยระยะเวลาที่เค้าสอนเราให้เราทำ รวมถึงอบจนขนมเสร็จประมาณ 2 ชั่วโมง หลังจากทำเสร็จเราสามารถนำกลับบ้านได้เลย ไปให้คนที่บ้านลองชิมได้ ไปดูฝีมือของแอดมินกันว่าทำแล้วหน้าตาขนมออกมาเป็นอย่างไงบ้าง

รายละเอียด ABC Cooking Studio
ชั้น 3 Central World
เปิด ทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.
โทร 02-613-1329
https://th-th.facebook.com/abccooking.th/

After You ของหวานสุดเทรน : น้ำแข็งใส คาคิโกริ Kakigori

หลายคนมีโอกาสได้ไปลองชิมเมนูใหม่ของทาง After You เป็นขนมหวานหน้าตาคล้ายๆน้ำแข็งใส แต่เนื้อน้ำแข็งมีการบดละเอียดกว่าแต่ไม่ละลาย ทำให้เวลาทานแล้วเนื้อของน้ำแข็งนุ่มละมุนลิ้น ละลายในปาก ฟินสุดๆเลย เจ้าน้ำแข็งใส ของ After You ตัวนี้ชื่อว่า “คาคิโกริ (Kakigori)” มี 3 แบบ ซึ่งด้านล่างของขนมก็เป็น ชีสเค้กบ้าง ขนมปังบ้าง ช็อคโกแล็ตบ้าง แล้วแต่ว่าเราเลือกรสชาติไหน อย่างเช่นเลือกราดซอสสตรอเบอรี่บนน้ำแข็ง ในฐานด้านล่างก็จะเป็น ชีสเค้ส อร่อยมากๆ น้ำแข็งใส คาคิโกริ 3 แบบ มีดังนี้

1.Milo Volcano Kakigori มีผงไมโลโรยด้านบนและมีวิปครีม ราดด้วยซอสไมโล ส่วนด้านในมีเม็ดไมโลพร้อมขนมปัง ราคา 215 บาท
2.Strawberry Cheesecake Kakigori มีซอสสตอเบอร์รี่ ส่วนด้านในมีชีสเค้ก ราคา 235 บาท
3.Two-Tone Kakigori มีผงไมโลและฮอร์ลิก(Horlick)หรือผงมอลต์ และมีวิปครีมด้านบนด้วย พร้อมซอสไมโลเข้มข้น ส่วนด้านในมีเม็ดไมโลและช็อกบอลใส้มอลต์พร้อมขนมปัง ราคา 235 บาท

เอาล่ะ ไปชมภาพหน้าตาเจ้าขนม Kakigori ของทาง After You กัน อร่อยฟุดๆเลยล่ะ

ตลาด อตก มีอะไรบ้าง?

ไหนๆก็มาดูขนมไทยจากบทความที่แล้ว ที่ตลาด อตก แห่งนี้ จะไม่แวะเดินชมรอบตลาดหน่อยก็เดี๋ยวจจะว่ามาไม่ถึง อ่ะๆแวะแชะภาพ เก็บบรรยากาศมาฝากซะหน่อย

คำว่าตลาด อตก. ย่อมาจาก องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร นั่นเอง อย่างที่บอกไปแล้วว่าตลาด อตก เป็นตลาดที่อุดมสมบูรณ์ ของกินเยอะมากๆๆ และราคาก็ตามคุณภาพนะ สมน้ำสมเนื้อเค้าแหล่ะ (ตามที่หลายๆคนเคยได้ยินมาว่า ตลาด อตก เป็นตลาดไฮโซ 🙂 มีทั้ง อาหารหวาน อาหารคาว ผลไม้ เดินเฉยๆมีท้องร้องแน่นอน รวมไปถึงดอกไม้ ข้าวสาร พูดได้เลยว่าเป็นตลาดสดที่ใหญ่ระดับหนึ่งที่มีสินค้าข้าวของที่หลากหลายมากจริงๆ ไม่เชื่อดูจากภาพถ่ายด้านล่างได้เลย

นอกเหนือไปจากสินค้าอาหารสดแล้ว ตลาด อตก ยังมี Food Court ร้านอาหารเป็นร้านๆให้นั่งรับประทานด้วย หากใครไม่สะดวกที่จะ ซื้อของสดไปทำเองที่บ้าน ซึ่งสะดวกสบายมาก

สำหรับการเดินทามาตลาด อตก แห่งนี้นั้นไม่ยากเลย เพราะเราสามารถเดินทางมาด้วยรถส่วนตัวก็ได้ เค้ามีสถานที่ลานจอดรถรองรับ หรือหากใครไม่สะดวกก็สามารถมาเองได้ด้วย รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ง่ายมากสะดวกมาก ลงสถานี กำแพงเพชร แล้วออกทางออกที่ 3  ก็ถึงเลยจ้า

ขนมไทยเก้าพี่น้อง

เมื่อเราเจอของคาวแล้วก็มาต่อกันด้วยของหวานกันเลย ล้างปากสักหน่อย แต่ของหวานวันนี้แอดมินพามาชิมไกลหน่อย จากก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ที่สีลม นั่งรถไฟฟ้ายาวๆ มาตลาด อตก. เลยจ้า ลงMRT สถานีกำแพงเพชร ทางออกที่ 3 ก็ถึงเลย แล้วเดินไปให้ถึงท้ายตลาดปีกขวา จะเจอร้านขนมไทยเก้าพี่น้องแสนอร่อยเลิศ ที่ร้านขนมไทยแห่งนี้นอกจากจะสามารถนั่งรับประทานได้แล้วยังสามารถซื้อกลับบ้าน ทำเป็นของฝากของชำร่วยได้ดีมากๆด้วย

ภายในร้านเมื่อเดินเข้ามาแล้ว คนที่รักขนมไทยจะต้องตกหลุมรักร้านนี้อย่างแน่นอน เพราะภายในร้านมีขนมไทยเรียงรายมากมาย  สีสันสวยงาม เรื่องรสชาติไม่ต้องพูดถึงอร่อยชัวร์ ถูกปากหลายๆคนเลยล่ะ  สำหรับราคาขนมและการจำหน่ายก็มีหลายแบบขึ้นกับความต้องการของทางลูกค้า ถ้าซื้อรับประทานเอง ก็มีตั้งแต่ราคา 30 บาทขึ้นไปจนถึงหลักหลายร้อยบาท จะคละขนมแต่ละชนิดหรือจะเลือกแต่ที่ชอบก็ได้ทางร้านเค้าจัดให้เราได้หมดเลย หรือจะเอาแบบสำเร็จที่มีขนมคละชนิดจัดแล้ว เป็นกล่องก็ง่ายดีไม่ต้องมาคิดมากเลือกเองก็ได้  แบบนี้ก็มีกล่องละ  100 บาท นอกจากนี้ก็ยังจะมีจัดแบบเป็นของขวัญ ของฝาก เป็นกล่องสวยงาม สำหรับงานแต่ง งานบวช งานมงคลต่างๆ ขนมมีทั้งแบบสดแบบแห้ง (แบบแห้งทางร้านบอกว่าเก็บไว้ได้ถึง 7 วันเลย) ราคาอยู่ที่กล่องละ 300 บาท กรณีกล่องกระดาษกล่องเล็ก  หรือถ้าเป็นกล่องผ้าไหมราคาอยู่ที่กล่องละ 900 บาท ทั้งนี้ราคาบวกลบตามปริมาณและชนิดของขนม

ที่ร้านก็ยังมีอาหารคาวต่างๆให้ได้รองท้องสำหรับใครที่ยังไม่ได้รับประทานอาหารมา แล้วมาตบท้ายด้วยขนมหวานที่ร้านนี้ ภายในร้านยังมีพนักงานที่คอยให้บริการใส่เสื้อสีชมพูต้อนรับเราด้วย ไปดูบรรยากาศร้านกัน น่านั่งจริงๆ

รีวิว ราชาก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่

ฮาโหลลล สวัสดีชาวโลก แอดมินหายหน้าไปนานคิดถึงกันบ้างไหม … วันนี้แอดมินมีเมนูอาหาร ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ แสนอร่อยมารีวิวจ้าา

ซึ่งร้านที่แอดมินจะรีวิวแนะนำก็คือร้าน ราชาก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ ที่ตั้งอยู่ในโซนร้านอาหารของ Tririty food mall นั่นเอง โดยอยู่ใจกลางเมืองในซอยละลายทรัพย์เลยจ้า ซึ่งร้านดังกล่าวจะต้องเดินลงไปชั้นใต้ดินหน่อยนึง จะอยู่ทางขวามือสุดเลยร้านแรก ถ้าใครไปตอนกลางวันจะเห็นคนต่อแถวยาวอยู่หน้าร้านเลยล่ะ

ความพิเศษของ ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ ร้านราชาก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ ก็คือนิกจากไม่ใส่ผงชูรสแล้ว ยังทำรสชาติได้ครบเครื่องแสนอร่อยมากๆ การันตีความอร่อยด้วยภาพด้านฝาผนังของร้านที่พระเทพฯ ยังทรงเคยมาเสวย และการที่ผู้คนมากมายต่อแถวกันซื้อ

สำหรับราคาก็อยู่ที่ 45-55 บาท โดยที่ร้านนอกจากมี ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่แล้วก็ยังมี ก๋วยเตี๋ยวคั่วหมู คั่วมาม่าไก่/หมูอีกด้วย แอดมินชิมแล้ว อร่อยฟุดๆ อยากให้ได้ลองชิมกันจริงๆ

ก๋วยเตี๋ยวอัญชัน เชียงใหม่น่าลอง

ขอต่ออีกนิดนะสำหรับทริปภาคเหนือ ตอนปีใหม่ของแอดมิน หลังจากเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวมากมายแล้ว แวะหาร้านอร่อยของเด็ดในเมืองเชียงใหม่กันเถอะ

มีคนแนะนำให้ลองมากินก๋วยเตี๋ยวอัญชัน เอ๊ะทำไมต้องอัญชัน ว่าแล้วต้องลอง

นี่ไงหน้าตาก๋วยเตี๋ยวอัญชัน ที่แท้เส้น ก๋วยเตี๋ยวก็เป็นสีม่วงคาดว่าแป้งก๋วยเตี๋ยวน่าจะผสมดอกอัญชัน จึงทำให้เส้นก๋วยเตี๋ยวเป็นสีม่วง

นอกจาก ก๋วยเตี๋ยวอัญชันแล้วที่ร้านยังมีเมนูข้าวและอื่นๆด้วย   แต่ที่เด็ดอีกอย่างคือข้าวของเค้าก็มีสีม่วงอัญชันด้วยนะ เป็นไง น่ากินไหม เท่านั้นยังไม่พอครับท่านผู้ชม ไหนจะทั้งข้าวทั้งก๋วยเตี๋ยวเป็นสีม่วงอัญชันแล้วยังไม่พอ ขาดไม่ได้เลยจ้า แท่นแท้นนน.. น้ำอัญชันมะนาวไงล่ะ

น้ำอัญชันมะนาวที่ร้านจะเสริฟมาครั้งแรกเป็นสีฟ้าๆน้ำเงินลอยมะนาว มาให้เราบีบมะนาวใส่เอง พอบีบใส่ปุ๊บ น้ำสีฟ้าเข้มก็จะเปลี่ยนเป็นสีม่วงทันทีจ้าา ตื่นเต้นอีกแล้ว 55+ สำหรับน้ำอย่างอื่นก็จะเสริฟมาพร้อมด้วยขันน้อยน้ำแข็ง น่าฮักขนาด (น่ารักมาก) นอกจากนี้ก็ยังมีขนมหวาน ให้เราได้ลองชิมอีกมากมาย

บรรยากาศร้านก็ตกแต่งได้เก๋ๆ ชิลๆ มีการนำรถจักรยานมาตกแต่งดัดแปลงทั่วทุกมุมของร้าน ไอเดียดีมาก

ขอบอกเลยว่าที่อาหารที่นี่ไม่ได้มีเพียงแต่หน้าตาที่แปลกใหม่เท่านั้น แต่รสชาติยังอร่อยเด็ดทุกเมนูเลย ไม่เชื่อลองไปชิมกันดูถึงจะรู้

Proudly powered by WordPress | Theme: Baskerville 2 by Anders Noren.

Up ↑