เที่ยวออสเตรเลียอย่าลืมไปดู Footy Australia Game

ประเทศออสเตรเลียเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีการแข่งขันประจำชาติที่เค้าจริงจังกันมากๆ คนทั้งประเทศมักจะร่วมแรงร่วมใจออกไปเชียร์ทีม Australian Football League ( AFL  Footy)  ของตัวเองทุกสัปดาห์ที่มีการแข่งขัน

โดยกีฬาประจำชาติของชาวออสซี่ นี้เป็นในลักษณะที่มีการผสมผสานระหว่างลักบี้และฟุตบอลเข้าด้วยกัน มีกฎกติกาที่ผสมผสานกันไป จึงเรียกกีฬานี้ว่า Footy

ซึ่งความจริงจังของการแข่งขันเจ้า Footy นี้มีการแบ่งทีมกันเป็นกิจจะลักษณะที่ชัดเจน โดย AFL มีทีมทั้งหมด 18 ทีม ที่แข่งขันกันในแต่ละฤดูกาล แต่ละทีมก็จะมาจากตัวแทนของรัฐต่างๆ คือ รัฐวิคตอเรีย, นิวเซาธ์เวลส์, เซาธ์ออสเตรเลีย, เวสต์เทิร์น ออสเตรเลีย และ ควีนส์แลนด์

และแน่นอนว่าถ้าใครกำลังจะไปเที่ยวออสเตรเลีย เราแนะนำว่าควรจะหาโอกาสไปดูการแข่งขันสดๆได้ที่สนาม จะประทับใจมากๆ โดยเราก็ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมทีม North Melbourne ก่อนจะไปดูการแข่งขันต่อที่สนาม Etihad Stadium ใน Melbourne ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ จะบอกว่าบรรยากาศน่าตื่นเต้น ตื่นตาไปหมดผู้คนจำนวนมากหลั่งไหลมาดูการแข่งขันนี้ ต่างเตรียมพร็อพแน่น ผ้าพันคอ หมวก และอุปกรณ์ต่างๆ ที่เป็นของทีมตัวเองมาเชียร์กันอย่างเนืองแน่น

ยิ่งระหว่างการแข่งขันการเชียร์นี่สนั่นหวั่นไหวมากๆ ถ้าใครได้ไปอยู่ในบรรยากาศจริงๆ จะรู้สึกว่าสนุกมากๆ ยิ่งหลังจบเกมส์การแข่งขัน ทาง Stadium ก็อนุญาตให้แฟนๆที่มาเชียร์ ลงไปสัมผัสถ่ายรูปเล่นกันได้ในสนามด้วย เป็นภาพที่ทุกคนมีความสุขมากๆ โดยเฉพาะเด็กๆ ที่ได้ลงไปเหยียบสนามการแข่งขันจริง

ดังนั้นถ้าใครวางแผนไปเที่ยวออสเตรเลีย เราอยากแนะนำให้ได้ไปชมการแข่งขัน Footy รับรองว่าประทับใจแน่นอน เราได้นำภาพบรรยากาศมาฝาก ดูรีวิวกันก่อนไปได้เลยจ้า

ด่านไทย-ลาวช่องเม็ก

ปกติการเดินทางข้ามไปประเทศลาวนั้นเราสามารถเดินทางข้ามไปได้หลายจังหวัด แต่ถ้าใครอยากจะไปเที่ยวลาวใต้ เมืองปากเซก็ต้องไปข้ามแดนที่ด่านไทย-ลาวช่องเม็ก โดยด่านช่องเม็กนี้ตั้งอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานีในเขตภาคอีสานของประเทศไทยเรานี่เอง ซึ่งตั้งอยู่ที่ อำเภอสิรินทร ห่างจากตัวเมืองประมาณ 90 กิโลเมตร มีความโดดเด่นตรงที่ด่านดังกล่าวจะติดกับชายแดนประเทศลาว จนนักท่องเที่ยวสามารถเดินข้ามฝั่งไปได้เลย ในขณะที่ด่านไทย-ลาว ส่วนใหญ่ จะต้องข้ามฝั่งแม่น้ำโขง

ดังนั้นถ้าใครอยากไปประเทศลาวแบบไม่ต้องนั่งเรือก็มาที่ด่านช่องเม็กได้ นอกจากนี้ยังมีความสะดวกสบายการจัดการของเจ้าหน้าที่ที่ด่านช่องเม็กก็อำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวได้ดีมาก ปฏิบัติงานกันอย่างรวดเร็ว โดยบรรยากาศก็ดูเป็นกันเอง ด้านหน้าก็จะมีติดป้ายบอกกฎระเบียบต่างๆ การยื่นเอกสาร เมื่อจัดการเรียบร้อย ก็สามารถเดินรอดอุโมงค์ผ่านไปยังประเทศลาวได้เลย โดยระหว่างทางรอดก็จะเห็นธงประเทศไทย และป้ายเขียนว่าสุดเขตแดนประเทศไทยและมีธงอาเซียนปักไว้

นอกจากนี้ระหว่างที่เดินไปตามทางอุโมงค์ก็มีชาวลาวมายืนขายซิมโทรศัพท์สำหรับใช้โทรและเล่นอินเตอร์เนทที่ประเทศลาวตลอดสองข้างทาง ราคาอยู่ที่ประมาณ 100 บาท ขึ้นอยู่กับความเร็วแรงและยี่ห้อของสัญญาณ จากนั้นเมื่อเท้าเราเหยียบพรมแดนประเทศลาวแล้วก็จะมีร้านค้าขายสินค้า Duty Free เขาว่าปลอดภาษี และมีร้านกาแฟดาว ที่ขึ้นชื่อของลาวด้วย เราก็สามรถซื้อของฝากขากลับได้ที่นี่นั่นเอง

ที่ออสเตรเลีย มีฝาขวดแบบนี้ขายด้วย

ที่ประเทศออสเตรเลียก็มีของบางอย่างที่ขายในซุปเปอร์มาร์เก็ต ที่แตกต่างไปจากบ้านเราหลายอย่าง และที่เราไปเจอก็มีอยู่อย่างหนึ่ง คือฝาขวดที่เป็นแบบฝาจีบ ปกติเราจะเห็นฝาจีบพวกนี้ตามขวดเบียร์ น้ำอัดลม โค๊ก เป๊ปซี่ รุ่นเก่า ตามร้านขายของชำ ยิ่งสมัยก่อนจะเห็นเยอะมาก พวกเครื่องดื่มเหล่านี้เป็นลังๆ เวลาเปิดก็จะต้องใช้ที่เปิดขวดโดยเฉพาะ หรือสมัยนี้ก็อาจจะยังมีอยู่บ้างที่เห็นได้ชัดก็ฝาจีบตามขวดโซดายี่ห้อต่างๆ นั่นแหล่ะ

โดยปกติบ้านเราพอเปิดแล้วฝาจีบก็ไม่ได้ถูกนำกลับมาใช้มากนัก เพราะเครื่องดื่มอะไรก็ตามที่ใช้ฝาจีบพอเปิดก็ต้องดื่มให้หมด ไม่งั้นก็ทิ้งไป เนื่องจากฝาจีบนั้นถ้านำกลับมาปิดให้แน่นจะยากกว่าพวกฝาหมุนทั่วไป ส่วนใหญ่ก็โยนทิ้งฝาจีบเป็นว่าเล่นกันไป อย่างดีหน่อยก็เอามาประดิษฐ์สิ่งต่างๆ ใช้เล่นหมากฮอสบ้าง เป็นต้น เราก็ไม่คิดว่าฝาจีบแบบนี้จะมีมูลค่าเอาไปใช้งานอะไรต่อได้ แต่ที่ประเทศออสเตรเลีย กลับมีขายแยกเป็นถุงๆ จำนวน 100 กว่าฝา ในราคา 2-3 AUD ก็ถ้าตีเป็นเงินไทย (ค่าเงิน 1 AUD =25 บาท ) ประมาณ 61 บาท เลยนะ มาคิดดูก็แปลกตาไปเหมือนกัน เอาเป็นว่าก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต่างชาติก็มีขายฝาจีบปิดขวดด้วย น่าสนใจดี

บ้านคุณนายดาวค๊อฟฟี่ ณ ลาวใต้

เป็นที่ทราบกันดีว่ากาแฟดาว หรือ ดาวค๊อฟฟี่ (Dao Coffee) เป็นของมีชื่อเสียงจากประเทศลาวที่ได้รับความนิยม ถึงขั้นก้าวมาเป็นธุรกิจระดับสากลได้ จากการปลูกกาแฟเป็นอุตสาหกรรม มีการผลิตเมล็ดกาแฟส่งออกและนำเข้าจำนวนมาก โดยธุรกิจกาแฟดาวนั้นเป็นหนึ่งในบริษัท Dao Heuang Group หรือ บริษัทดาวเฮือง ที่ยังมีสินค้าอย่างอื่นนอกจากกาแฟด้วย

และเราได้มีโอกาสไปเที่ยวลาวใต้ จึงได้แอบเห็นสาขา บริษัทดาวเฮือง และเก็บภาพระยะไกลๆ ที่บอกกล่าวกันว่าคือ คฤหาสน์สุดหรูบ้านของคุณนายดาว เจ้าของธุรกิจกาแฟดังเจ้านี้ นี่ขนาดมองไกลๆ จากถนนริมน้ำ บ้านคุณนายดาวยังหรูขนาดนี้ ไม่รู้ว่าข้างในจะเป็นอย่างไรบ้าง

LOTTO ในออสเตรเลีย

รู้ไหมว่าคนออสเตรเลียก็มีการเล่น ลอตเตอรี่เหมือนกันนะ โดยวิธีการเล่นของคนออสเตรเลียจะแตกต่างกับคนไทยตรงที่ ไม่ได้มีแม่ค้าพ่อค้ามาเดินถือแพงขายตามตลาดให้มีข่าวการทำลอตเตอรี่หล่นหายแบบข้างทางนะ แต่ที่ออสเตรเลียนั้นจะมีจุดจำหน่ายลอตเตอรี่ หรือเรียกว่า LOTTO ในเขตต่างๆตั้งแต่ในเมืองไปจนถึงตามชนบทเลย มีทั้งแบบตู้อัตโนมัติ ให้กด run ตัวเลขเองแบบเสี่ยงโชค หรือจะซื้อกับเจ้าหน้าที่ตามร้านก็ได้

โดยถ้าหากจะให้เจ้าหน้าที่จัดการให้ เราก็จะต้องเลือกตัวเลขในแบบฟอร์มของแต่ละวันก่อน แล้วยื่นให้เจ้าหน้าที่พิมพ์และพิมพ์เอกสารของมาให้ มีลักษณะคล้ายๆใบเสร็จก็จะมีตัวเลขเป็นชุดและราคาทั้งหมด เราสามารนำเอกสารดังกล่าวมาตรวจเช็คได้ที่ร้านในวันถัดไป ความแตกต่างของ LOTTO ที่ออสเตรเลียอีกอย่างก็คือ จะมีการออกรางวัลทุกวัน ใช่แล้วอ่านไม่ผิด ที่นี่ออกรางวัลทุกวัน โดยหลักการคือ ถ้าวันไหนรางวัลใหญ่ไม่แตกก็จะทบรางวัลไปในสัปดาห์ถัดไป ซึ่งรางวัลที่ออกทั้ง 7 วัน จะเป็นรางวัลคนละแบบ จะแยกรางวัลตามวันนั้นๆเลย ดังนั้นเวลาจะเลือกตัวเลขในแบบฟอร์มซื้อ LOTTO ก็จะต้องดูกันดีๆว่าวันที่เราซื้อเป็นวันอะไร อาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ พฤหัสบดี ศุกร์ หรือ เสาร์ แล้วจึงเลือกฟอร์มให้ถูกและกาตัวเลข

โดยจำนวนตัวเลขที่เลือกในแต่ละวันก็แตกต่างกันไปอีก เพราะฉะนั้นก็จะต้องอ่านรายละเอียดด้านหลังฟอร์มให้ดีก่อนจะเลือกตัวเลขด้วย ถ้าใครมีโอกาสได้ไปเที่ยวไปอยู่ก็ลองเสี่ยงโชคกันได้ ไม่แน่คุณอาจจะเป็นเศรษฐีคนต่อไปก็ได้

ชมงานศิลปะใน Gallery ที่ Melbourne

เป็นที่ทราบกันดีว่าเมือง Melbourne ประเทศออสเตรเลียนั้นเป็นเมืองแห่งศิลปะ นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเมืองนี้นอกจากจะได้เห็นศิลปะตามท้องถนน ทั้งรูปปั้น รูปวาดแล้ว ยังมีสถานที่รวบรวมงานศิลปะระดับสูงและงานโบราญต่างๆไปอีกมากมายไว้ใน Gallery 

ซึ่งถ้าจะให้พูดกันอย่างจริงจังแล้วนั้น Gallery ในเมือง Melbourne นั้นมีมาก แม้แต่บางบ้านเจ้าของบ้านก็ทำเป็น Gallery เพื่อให้ผู้อื่นได้มาเยี่ยมชม แต่ครั้งนี้ที่เราไปก็คือศูนย์ศิลปะระดับชาติเลยที่เรียกว่า National Gallery of Victoria หรือ NGV โดยสถานที่ดังกล่าวอยู่ในใจกลางเมือง Melbourne เดินทางสะดวก ซึ่งภายในรวบรวมงานศิลปะที่น่าสนใจไว้มากมาย ทั้งภาพวาด ภาพถ่าย รูปปั้น งานจักสาน และผลงานของชนพื้นเมืองสมัยโบราญของชาวออสเตรเลีย เรียกได้ว่าถ้าใครรักงานศิลปะหรืออยากหาแรงบันดาลใจ ก็สามารถมาเที่ยวที่ NGV ได้รับรองได้ไอเดียและความคิดสร้างสรรค์กลับบ้านไปอย่างแน่นอน

สถานที่: National Gallery of Victoria (NGV)

เบอร์ติดต่อ: +61 3 8620 2222

เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน 10.00 -17.00 น.

Website: https://www.ngv.vic.gov.au/

เดินป่าขึ้นเขา มองจิงโจ้ ที่ Grampians ในออสเตรเลีย

สัญญาลักษณ์สำคัญของออสเตรเลียก็คือ จิงโจ้ ดังนั้นถ้าใครมาเที่ยวออสเตรเลีย อยากจะส่องชีวิตจิงโจ้ที่ไม่ใช่แค่ในสวนสัตว์ แนะนำว่าให้มาเที่ยวที่ Grampians National Park โดยสถานที่แห่งนี้เป็นเหมืองเมืองแห่งธรรมชาติที่กว้างขวางมาก

เรียกได้ว่าถ้าจะเที่ยวให้ทั่วก็ต้องขับรถกันเป็นวันๆ เพราะที่นี่มีแหล่งธรรมชาติมากมายให้นักผจญภัยไปค้นหา ได้แก่น้ำตกที่มีหลายจุด ทั้งขนาดเล็กใหญ่ หน้าผา ภูเขา ลำธาร ยอดดอย และสัตว์ต่างๆ เป็นต้น ถ้าใครเป็นคอธรรมชาติรักการท่องเที่ยวแบบป่า ส่องนก มองจิงโจ้ แล้วแนะนำให้มาเที่ยวที่นี่เลย นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวแบบค้างคืน อาจจะตั้งแคมป์ กางเต็นท์ หรือพักโรงแรม ทางสถานที่ก็มีให้บริการ เพราะอย่างที่บอกไปข้างต้นว่า Grampians National Park นั้นมีขนาดกว้างมาก เที่ยววันเดียวอาจจะไม่หมด

สำหรับกิจกรรมที่ขึ้นชื่อที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมทำกันเมื่อมาถึงก็จะไปดูน้ำตก และเดินขึ้นเขาเพื่อไป The Pinnacle walks ซึ่งเป็นจุดไฮไลทสำคัญอีกจุกหนึ่งที่ได้เห็นวิวความสวยงามของธรรมชาติ แต่กว่าจะเดินกันไปถึงก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมงเหมือนกัน แต่ถ้าใครแนวรักสัตว์ ก็จะมีจิงโจ้เยอะมาก ทั้งบริเวณที่ให้ชมแบบมีรั้วกั้น หรือถ้าใครอยากจะไปวิ่งไล่ตามเองตามข้างทางก็มีให้เห็นตลอดข้างทาง คนรักจิงโจ้ไม่ควรพลาด

สถานที่: Grampians National Park , Victoria, Australia

เบอร์ติดต่อ: +61 3 5361 4000

Website: https://www.visitgrampians.com.au/

ระหว่างทางเดินไปวัดเงิน Ginkakuji Temple

เกียวโตประเทศญี่ปุ่นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีวัดดังมากมายที่น่าสนใจและอีกหนึ่งวัดดังที่แนะนำว่าควรไป โดยเฉพาะในช่วงดอกซากุระบานแล้วล่ะก็ต้องไปที่ วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) หรือ วัดเงิน นั่นเองเพราะวัดแห่งนี้นอกจากมีชื่อเสียงในด้านแบบฉบับวัดดั้งเดิมแบบญี่ปุ่นโบราณที่สวยงามแล้ว ระหว่างการเดินทางไปยังวัดเงิน ในละแวกใกล้เคียงกันนั้นก็ยังมีทางเดินแห่งนักปราชญ์หรือบางคนก็เรียกว่าทางเดินแห่งซากุระรอบๆด้วย

ซึ่งทางเดินแห่งนักปราชญ์นี้มีคนบอกว่าเป็นแหล่งที่รวมต้นซากุระไว้กว่าร้อยต้น ดังนั้นถือว่าเป็นอีกจุกไฮไลท์สำคัญสำหรับการมาเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงเดือนแห่งซากุระบานด้วย โดยจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาเที่ยวชมดอกไม้ ถ่ายรูป ณ ที่สถานที่แห่งนี้ เหมือนได้เดินทางมายังจุดเดียวแต่ได้เที่ยวถึงสองต่อ อย่างไรก็ตามนอกจาก วัดเงิน ดอกซากุระที่สวยงาม นักท่องเที่ยวมาเก็บภาพโดยรอบแล้ว รอบๆพื้นที่ก็ยังมีร้านค้า ของที่ระลึก ร้านขนม ชาเขียว เสื้อผ้าแบบชาวญี่ปุ่นพื้นเมืองด้วย ถ้าใครมาเที่ยวก็ถือว่าเดินชมเพลินตาสบายใจ และมีความสุขกับบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่น ดังนั้นใครมีแผนไปเกียวโตลองจดวัดเงินเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวไว้ในแผนเที่ยวญี่ปุ่นก็ได้นะ

สถานที่: วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) หรือ วัดเงิน

วิธีเดินทาง:เดิน 30 นาที จาก Demachiyanagi Station สาย Keihan Railway  หรือ นั่งรถบัสสาย 100 มาลงที่ สถานีรถบัสป้าย Ginkakuji-mae แล้วเดินจากป้ายไป 5 นาที

เวลาเปิด-ปิด:

  • 30 น. – 17.00 น. (มีนาคม-พฤศจิกายน)
  • 00 น. – 16.00 น. (ธันวาคม-กุมภาพันธ์)

ค่าเข้าชม : 500 เยน

เบอร์ติดต่อ : +81 75-771-5725

ส่องบรรยากาศ Docklands ยามเย็น ที่ออสเตรเลีย

สำหรับใครที่ชอบบรรยากาศสุดชิว สบายๆ เดินเล่นยามเย็นใน Melbourne นอกจากตามชายหาดริมทะเลแล้ว ยังมีอีกหนึ่งสถานที่น่าสนใจ ไปลองเดินเล่นกันได้ นั่นก็คือ ย่าน Docklands โดยย่านนี้เป็นลักษณะคล้ายท่าเรือ ท้องทะเลกลางเมือง และสะพานที่ออกแบบแปลกตาสวยงาม ระหว่างเดินเล่นนั้นนอกจากเราจะได้สัมผัสบรรยากาศแสนสบายแล้วยังดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์ของท่าเรือเรือไปด้วย ไปชมภาพกัน

Proudly powered by WordPress | Theme: Baskerville 2 by Anders Noren.

Up ↑