ชมดอกซากุระที่ Moon Crossing Bridge ญี่ปุ่น

ช่วงปลายมีนาคมถึงต้นเมษายนของทุกปีในประเทศญี่ปุ่นนั้นจะเป็นช่วงฤดูซากุระ หรือ Cherry Blossom โดยช่วงเวลาดังกล่าว เป็นช่วงที่มีดอกซากุระบานสะพรั่งสวยงาม จึงส่งผลให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันเป็นอย่างมาก

และที่ Moon Crossing Bridge จังหวัดเกียวโตก็เช่นกัน เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่ปกติก็มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาตลอดทั้งปีอยู่แล้ว เพราะสะพานแห่งนี้มีความสวยงามและอยู่ใกล้เขตกับป่าไผ่ชื่อดังอาราชิยาม่า นั่นเอง

ซึ่งถ้าใครเดินทางมาลงสถานีรถไฟ Arashiyama Station [Henkyu railway] ก็จะต้องเดินผ่านริมแม่น้ำ จะพบต้นซากุระสีขาวและสีชมพูบานเต็มทั้งต้นสวยงามมากๆ บริเวณใกล้เคียงก็มีขนมทานเล่น ขนมพื้นบ้านชาวญี่ปุ่นขาย นักท่องเที่ยวบางคนก็ซื้อและนั่งชมแม่น้ำท่ามกลางดอกซากุระบาน เป็นบรรยากาศแสนสบายสุดชิว ใครไปญี่ปุ่นช่วงซากุระก็ลองชมดูก่อนตัดสินใจใส่ไว้เป็นแผนเที่ยวอีกที่หนึ่งก็ได้นะ

สถานที่ : Moon Crossing Bridge
GPS:

เบอร์ติดต่อ : +81 75-861-1101
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงสถานี Arashiyama Station [Henkyu railway]

เที่ยวเกียวโตชมดอกซากุระและเทคนิคการเดินทาง

ประเทศญี่ปุ่นเป็นจุดหมายปลายทางของคนไทยหลายต่อหลายคนที่ชอบไปสัมผัสบรรยากาศที่เรียบง่าย มีวัฒนธรรมอันงดงามที่แฝงไปด้วยความอบอุ่น ผู้คนก็สุภาพเรียบร้อย อาหารก็อร่อยโดนใจไม่น้อย ขึ้นชื่อว่าประเทศญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวต่างหลงใหลกับดินแดนอาทิตย์อุทัยมากๆ

เอาล่ะมาเข้าเรื่องกันดีกว่า เราก็ได้มีโอกาสไปสัมผัสความอบอุ่นสวยงามที่ญี่ปุ่นเช่นกัน ซึ่งครั้งนี้เราได้แวะเวียนไปยังเมืองหลวงเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยวัดและประวัติศาสตร์มากมาย นั่นก็คือเมืองเกียวโตนั่นเอง

แต่ครั้งนี้เราไม่ได้จะมารีวิววัดในเกียวโตแบบคนอื่นๆ แต่เราได้เก็บภาพบรรยากาศและดอกซากุระมาฝากมากมาย ถ้าใครที่เคยได้ไปเกียวโตช่วงดอกซากุระบานเต็มที่ จะต้องรู้สึกประทับใจและมีความสุขไม่น้อยกับภาพที่ได้เห็น เราจึงได้บันทึกภาพดอกซากุระมาให้ชมกัน รวมไปถึงการเดินทางในเกียวโตเพื่อไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆด้วย

 

ถ้าใครไปเกียวโตก็มักจะต้องได้ไปสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังหลายที่ ดังนี้

  • วัดน้ำใส Kiyomizu-dera
  • ศาลเจ้ายาซากะ – Yasaka-jinja Shrine
  • กิออน ย่านเกอิชาแห่งเกียวโต – Gion
  • วัด Toji temple
  • เกียวโตทาวเวอร์ Kyoto Tower
  • ศาลเจ้า Fushimi Inari Taisha

ด้านล่างนี้เป็นแผนการเดินทางของเราซึ่งเราพักอยู่ที่ Osaka แต่เดินทางไปเที่ยว Kyoto จุดเริ่มต้นจึงเริ่มที่สถานีของโรงแรมที่เราพักนั่นก็คือ Higobashi Station จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังเกียวโตและแวะสถานที่เที่ยวชื่อดังต่างๆ    

  • ออกเดินทาง จาก Higobashi ไป Kyoto

ไป Kiyomizu-dera วัดน้ำใส (Pure Water Temple) ขึ้นรถเมล์ เดินประมาณ 10-15 นาที จากป้ายรถบัส Gojo-zaka หรือป้ายรถบัส Kiyomizu-michi [รถบัสสาย 100, 206]

Kyoto station – Kiyomizu-Gojo Station [ Keihan Railway Line]

ไปศาลเจ้ายาซากะ (Yasaka-jinja Shrine) : Kiyomizu Gojo Station – Gion-shijo Station

จากศาลเจ้ายาซากะ – Yasaka-jinja Shrine เดินไป กิออน ย่านเกอิชาแห่งเกียวโต – Gion หาอะไรกินแถวนี้

ไปวัด Toji temple : Gion-shijo Station – Toji Station

ไปเกียวโตทาวเวอร์ Kyoto Tower : Toji Station – Kyoto station

ไปศาลเจ้า Fushimi Inari Taisha สามารถลงที่สถานี Inari แล้วเดินไปได้เลยอยู่ใกล้สถานีมากๆ

วัดน้ำใส (Kiyomizu-dera) ในวันซากุระบาน @Japan

ใครไปเกียวโตแล้วไม่ได้ไปเที่ยววัดน้ำใสหรือ วัดคิโยะมิซุ (Kiyomizu-dera) นั้นถือว่าเชยมากสำหรับคนไปเที่ยวญี่ปุ่นในแถบคันไซ เพราะวัดแห่งนี้เป็นวัดที่มีชื่อเสียงมาก และดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นอันดับต้นๆของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ เนื่องด้วยประวัติความเป็นมาที่โด่งดังถึงน้ำสายน้ำอันศักดิ์สิทธิ์แล้ว สถานที่แห่งนี้ยังการันตีด้วย UNESCO ที่บันทึกไว้เป็นหนึ่งในมรดกโลกอีกด้วย ซึ่งช่วงที่เราไปเที่ยวมาก็เป็นช่วงที่ดอกซากุระบานสะพรั่ง ภายในวัดนี้เต็มไปด้วยต้นซากุระที่สวยงาม ยิ่งทำให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าไปอีก ทำให้มีผู้คนนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชมกันอย่ามากมาย นอกเหนือไปจากนี้ระหว่างการเดินทางขึ้นไปยังวัดน้ำใส ก็มีธรรมเนียมการแต่งกายด้วยชุดโบราณญี่ปุ่น โดยเฉพาะกิมโมโน ซามูไร ดังนั้นทำให้การเดินขึ้นไปยังวัดไม่น่าเบื่อ เพราะเราจะพบผู้คนทั้งต่างชาติและแม้แต่คนญี่ปุ่นเองแต่งชุดโบราณญี่ปุ่น สวยงามเดินสวนเป็นระยะๆ หรือเดินทางไปพร้อมๆกันก็มี

สถานที่ : Kiyomizu-dera วัดน้ำใส (Pure Water Temple)

ที่อยู่: 1-294 Kiyomizu, Higashiyama-ku, Kyoto

ค่าเข้าชม: 300 เยน

เวลาเปิด-ปิด: 6:00 – 18:00 น.

วิธีเดินทาง: ลงที่สถานี Kiyomizu-Gojo Station แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 20 นาที

เบอร์ติดต่อ: +81 75-551-1234

ศาลเจ้าเทพเจ้าจิ้งจอก (Fushimi Inari Shrine) ยามค่ำคืนที่ญี่ปุ่น

ใครที่ไปเที่ยวเกียวโตแล้วส่วนใหญ่จะต้องแวะไปศาลเจ้าเทพเจ้าจิ้งจอก (Fushimi Inari Shrine)ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่นักท่องเที่ยวทุกรายต้องไปเยือน ไปเดินเยี่ยมชมและถ่ายรูปกับเสาสีแดงเรียงรายขึ้นไปภูเขา และเชื่อว่าภาพถ่ายคนที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นหลายคนจะต้องมีถ่ายรูปคู่กับเสาสีแดงแน่นอน สำหรับศาลเจ้าเทพเจ้าจิ้งจอกอินาริ Fushimi Inari Shrine นั้นตั้งอยู่ ใกล้กับสถานีรถไฟ Fushimi Inari เดินทางง่ายสะดวก และที่สำคัญคือเข้าชมฟรี

งานนี้เราเลยแวะไปเที่ยวบ้างแต่ขอแหวกแนวไปยามค่ำคืนแทน แล้วก็ได้ภาพศาลเจ้าเทพเจ้าจิ้งจอกอินาริ ตอนกลางคืนที่ดูขลังไปอีกแบบและเชื่อไหมว่าไม่ใช่แค่เราเท่านั้นไปเยี่ยมชมในยามค่ำคืน แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวหลายกลุ่มเลือกจะไปถ่ายรูปตอนกลางคืนเช่นเดียวกัน ถ้าใครสนใจก็ไปกันได้ตามรายละเอียดด้านล่างเช่นเดิม แต่ใครจะไปตอนกลางวันหรือกลางคืนก็ได้รูปสวยต่างกันออกไป
การเดินทาง : ศาลเจ้าจิ้งจอกแดงอยู่ด้านหน้าสถานี JR Inari ในสาย JR Nara Line หรือจะเดินจากสถานีรถไฟ Fushimi Inari ของสาย Keihan Main Line ก็ได้เหมือนกัน

Website: http://inari.jp/
ค่าเข้าชม: ฟรี

ย่านโดทงโบริ (Dotonbori) กับป้ายกูลิโกะยักษ์ @Japan

ใครมาโอซาก้าแล้วไม่ได้มาย่านย่านโดทงโบริ (Dotonbori) นั้นถือว่ามาไม่ถึงโอซาก้านะจะบอกให้ เพราะย่านนี้เป็นย่านใจกลางเมืองโอซาก้าที่มีร้านค้าช้อปปิ้งที่ใหญ่มาก ผู้คนมากมาย เดินกันไม่หยุด ทั้งกลางวันและกลางคืน มีแหล่งรวมร้านอาหารต่างๆมากมาย โดยเฉพาะ ทาโกยากิ ยากิโซบะ และ เนื้อปูยักษ์ ดังนั้นสถานที่แห่งนี้ห้ามพลาดเลยนะสำหรับขาช้อปและขากินทั้งหลาย

นอกจากนี้การถ่ายรูปกับป้ายกูลิโกะยักษ์ ก็เป็นธรรมเนียมไปซะแล้วสำหรับใครๆที่มาเที่ยวที่โอซาก้า จะต้องถ่ายรูปกับป้ายและชูมือพร้อมกับยกขาขึ้น เป็นเรื่องปกติมากถ้าได้เดินผ่านป้ายจะเป็นผู้คนมาถ่ายรูปกันเต็มไปหมดทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติหรือแม้แต่ชาวญี่ปุ่นด้วยกันเองก็ตาม ถ้าได้ไปเที่ยวโอซาก้าก็ห้ามพลาดแวะไปเด็ดขาดนะ

สถานที่ : ย่านโดทงโบริ (Dotonbori)
ที่อยู่: Dotonbori, Chuo, Osaka, Osaka Prefecture 542-0071, Japan

ไหว้พระใหญ่องค์โตที่นารา Japan

นาราเป็นเมืองเล็กที่ติดกับเมืองเกียวโตในแถบคันไซประเทศญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวหลายคนนิยมมาเที่ยวเกียวโตและแวะมาที่นาราเพราะอยู่ใกล้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่นาราจะมีวัดที่ชื่อว่า วัดโทไดจิ Todaiji temple เป็นวัดที่มีขนาดใหญ่มาก และมีที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ยักษ์มาก พระพุทธรูปองค์นี้ทำจากสำริด มีความสูง 16 เมตร มีน้ำหนักถึง 500 ตัน และยังเป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

คนไทยเราก็มักจะเรียกว่าพระใหญ่องค์โต แห่งเมืองนารา แน่นอนว่าวัดแห่งนี้ก็เป็นอีกจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่นิยมเดินทางมากราบไหว้สักการะบูชาและเก็บภาพ ยิ่งไปกว่านั้นสำหรับนักแสวงบุญชาวพุทธก็นิยมมาไหว้และพยายามรอดเสาทางด้านซ้ายของพระใหญ่ต้นหนึ่งที่ถูกเจาะรูไว้ โดยรูของเสาดังกล่าวนั้นมีขนาดเท่ากับจมูกของประใหญ่ เพราะเชื่อกันว่าถ้าใครสามารถรอดผ่านรูนี้ได้ก็จะได้บรรลุนิพาน หรือบ้างก็บอกว่าจะทำให้คำอธิฐานนั้นๆเป็นจริง ทำให้ที่เสาดังกล่าวมักจะมีผู้คนรวมไปถึงนักท่องเที่ยวมายื่นต่อแถวเพื่อให้ได้รอดรูเสาต้นนี้นั่นเอง

สถานที่: วัดโทไดจิ (Todaiji Temple)
วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Kintetsu Nara Station แล้วเดินไปอีกประมาณ 25 นาที
เวลาเปิด-ปิด: 8:00 – 17:00 น.
ค่าเข้าชม: 500 เยน

โชว์ปลาทูน่ายักษ์ ที่วากายาม่า @Japan

อีกหนึ่งไฮไลท์ ที่ตลาดปลาวากายาม่า นอกจากกินอาหารทะเลสดๆ ริมทะเลแล้ว ยังมีการแสดงโชว์แล่เนื้อปลาทูน่ายักษ์ ให้ดูแบบตื่นตาตื่นใจมากๆ อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเมืองวากายาม่า ในแถบคันไซประเทศญี่ปุ่นนี้ เป็นเมืองส่งออกปลาทูน่าอันดับต้นๆของประเทศ ดังนั้นแล้วปลาทูน่าที่วากายาม่า จึงขึ้นชื่อและเป็นที่นิยมมากๆ ที่ Kuroshio Ichiba Market ตลาดปลาชื่อดังใน Marina City จึงมีการจัดแสดงโชว์แล่เนื้อปลาทูน่ายักษ์ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชม

ซึ่งการแสดงนี้จะจัดขึ้นทุกวัน วันละ 3 รอบต่อวัน ใครที่ชอบความตื่นเต้นลองแวะมาได้ บอกได้เลยว่าปลาทูน่าที่นำมาแล่โชว์นั้นตัวใหญ่มากๆ และคนที่แล่เนื้อก็โชว์การแล่ได้อย่างมืออาชีพ ขณะที่มีการโชว์นักท่องเที่ยวที่เดินชมตลาดทั้งหมดจะมายืนดูการแสดงโชว์อย่างคับคั่ง ดังนั้นเรามามีคำแนะนำว่าถ้าตั้งใจจะไปชมโชว์แล่ทูน่ายักษ์อย่าใกล้ชิด ควรดูเวลาที่โชว์เริ่ม แล้วไปยืนรอก่อน 5-10 นาที คุณก็จะได้ยืนดูในตำแหน่งที่เด่นชัดและทำเลดีที่สุด หลังจากโชว์เสร็จสิ้นแล้ว ทางร้านก็จะนำเนื้อปลาทูน่าที่แล่สดๆ มาวางจำหน่ายผู้ที่ชื่นชอบสามารถซื้อกลับไปฝากหรือย่างรับประทานได้ทันที เพราะคุณจะได้ลิ้มรสชาติของเนื้อปลาทูน่ายักษ์ สดๆ ใหม่ๆ เนื้อหวาน อร่อยมากๆเลย จดไว้ในแผนเที่ยวของคุณอีกหนึ่งที่ตามไปเที่ยวกันได้จ้า

สถานที่ : Wakayama Marina City 1527, Kemi, Wakayama-shi, Wakayama-ken, Japan
โทร: 073-448-0300 (Int+81-73-448-0300)

รอบการโชว์แล่เนื้อปลาทูน่ายักษ์ :
-11.00 น.
-12.30 น.
-15.00 น.

ค่าเข้าชม : ฟรี
Website: https://www.marinacity.com/eng/ichiba/
การเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงที่สถานี จาก Wakayamashi Station แล้วต่อรถเมล์ไปลง Marina City สุดสายได้เลย

เส้นทางดอกซากุระ

เส้นทางดอกซากุระ หรือ ทางเดินนักปราชญ์แห่งเกียวโต (Kyoto Philosopher’s Path) เป็นเส้นทางเดินชมดอกซากุระทั้งแถบ ถ้านักท่องเที่ยวที่ได้ไปเยื่อนเส้นทางแห่งนี้ในยามดอกซากุระบานสะพรั่ง คุณจะสัมผัสได้ถึงความสวยงามที่ยากเกินจะบรรยาย ความเป็นธรรมชาติ ความอ่อนโยน นึกถึงเวลาเราดูการ์ตูนแล้ว บรรยากาศฟรุ้งฟริ้ง มีดอกซากุระบาน รอบๆตัวเรา แบบนั้นเลย

แต่เป็นของจริง แถมระหว่างการเดินทางก็จะมีบางต้นที่ดอกซากุระปลิวร่วงหล่นลงมาบ้างตามธรรมชาติ ทุกอย่างดูสมบูรณ์มากๆ นักท่องเที่ยวนิยมมาเดินเล่นยังเส้นทางแห่งนี่ในช่วงเทศกาลซากุระเป็นจำนวนมาก และกิจกรรมยอดฮิตของเหล่านักท่องเที่ยวก็คือ การถ่ายภาพ เก็บไว้เป็นที่ระลึก เพราะเชื่อเถอะว่าทุกคนที่มาต้องหยิบกล้อง หยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปอย่างแน่นอน เพราะทนความสวยงามของเหล่าดอกซากุระไม่ไหว ต่อให้ถ่ายรูปไม่เก่ง แต่รับรองว่า ถ่ายมุมไหนๆ ก็ออกมาสวยแบบมืออาชีพ เพราะเส้นทางซากุระนี้มันสวยในตัวของมันเองอยู่แล้ว

ดังนั้นถ้าใครมีแผนจะไปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงดอกซากุระบานครั้งต่อไปที่เกียวโต แนะนำว่าห้ามพลาดเด็ดขาดกับทางเดินนักปราชญ์(Philosopher’s Path) แห่งนี้ เพราะต้องเป็นหนึ่งในแผนเที่ยวที่สำคัญที่คุณต้องบันทึกไว้

สถานที่: ทางเดินนักปราชญ์แห่งเกียวโต (Kyoto Philosopher’s Path)
ที่อยู่: Tetsugaku-no-michi Sakyō-ku, Kyōto-shi, Kyōto-fu Japan
วิธีเดินทาง: ขึ้นรถเมล์สาย 204 จากสถานี Daitokuji มาที่สถานี Ginkakuji-michi

ไปกินอาหารทะเลสดๆ ที่ตลาดปลาวากายาม่า @Japan กัน!!

เมืองวากายาม่า (Wakayama) เป็นเมืองที่อยู่ในแถบคันไซประเทศญี่ปุ่น เป็นเมืองที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวหลายคนอาจจะยังไม่เคยไป เพราะส่วนใหญ่ถ้าคนที่มาเที่ยวญี่ปุ่นในแถบคันไซก็มักจะไปเที่ยวที่โอซาก้าและเกียวโตมากกว่า แต่ความจริงแล้วแถบคันไซนี้ยังมีเมืองน่ารักๆ และน่าสนใจอีกหลายเมืองอย่างเช่นที่เมืองวากายาม่า (Wakayama) ก็เช่นกัน

รู้ไหมว่า วากายาม่ายังเป็นเมืองที่ส่งออกปลาทูน่าอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นเลยนะ แถมยังมีตลาดปลาที่เราอยากแนะนำให้มาลองชิมอาหารทะเลสดๆกัน ที่ Kuroshio Ichiba Market ตลาดปลาชื่อดังใน Marina City ในตลาดจะมีขายอาหารทะเลสดๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อแล้วนำมาย่างได้ทันที ความพิเศษของตลาดอยู่ตรงที่ เค้ามีบริการพื้นที่เตาให้เราใช้บริการได้ฟรี เหมือนร้านอาหารเลย มีพนักงานมาคอยจุดไฟให้ บริการดีมากๆ ไม่ว่าเราจะซื้ออาหารทะเลร้านไหนก็มาใช้เตาย่างได้หมดเลย ดีมากๆ แถมอาหารทะเลก็สดใหม่อร่อยสุดๆไปเลย นอกจากนี้ใน Wakayama Marina City ยังมีสถานที่เที่ยวอื่นๆอีกมากทั้งแช่น้ำร้อน โซนหมู่บ้านผลไม้ และต่างๆ อีกมากมาย ใครไปญี่ปุ่นถ้ามีโอกาสก็ลองแวะไปชิมอาหารทะเลกันได้ เดี๋ยวทิ้งลายแทงไว้ให้ด้านล่างเช่นเคย

สถานที่ : Wakayama Marina City 1527, Kemi, Wakayama-shi, Wakayama-ken, Japan
โทร: 073-448-0300 (Int+81-73-448-0300)
Website: https://www.marinacity.com/eng/ichiba/
การเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงที่สถานี จาก Wakayamashi Station แล้วต่อรถเมล์ไปลง Marina City สุดสายได้เลย

Proudly powered by WordPress | Theme: Baskerville 2 by Anders Noren.

Up ↑