พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง (Osaka Aquarium Kaiyukan)

อีกหนึ่งที่เที่ยวในโอซาก้าต้อง พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง (Osaka Aquarium Kaiyukan) ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ  พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคังแห่งนี้มีขนาดที่ใหญ่มาก มีพื้นที่และจุดบริการมากมายสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมทุกคน ถ้าใครวางแผนจะไปแนะนำว่าให้ตั้งแผนไว้เลยว่าเที่ยวที่นี่ทั้งวัน เพราะอบ่างที่บอกว่าภายในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้กว้างใหญ่มากจริงๆ

ผู้ใหญ่มักจะพาเด็กๆมาเที่ยวชมสัตว์น้ำ สัตว์ทะเลหลากหลาย โดยเฉพาะปลาชนิดต่างๆ เด็กๆที่มาทั้งตื่นเต้นและให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ทางพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคังก็ตอบสนองความต้องการให้กับนักท่องเที่ยวทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่รักสัตว์น้ำ ชอบการเรียนรู้ โดยมีเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลรวมถึงตามจุดต่างๆ จะมีตัวปั๊มให้นักท่องเที่ยวปั๊มเก็บไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย ดังนั้นถ้าใครได้ไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง ก็อย่าลืมพกสมุดเล่มเล็กๆหรือกระดาษติดตัวไปด้วย เพราะคุณจะได้ใช้ตราปั๊มที่เค้าบริการให้ปั๊มเก็บไว้เป็นที่ระลึก ใครที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแนวนี้ก็ลองแวะไปกันได้ ยิ่งถ้าบ้านไหนมีเด็กๆจะยิ่งถูกใจเด็กๆกันเป็นพิเศษเลย

สถานที่ : พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง (Osaka Aquarium Kaiyukan)

ค่าเข้าชม:

  • อายุมากกว่า 16 ปี 2,300 เยน
  • อายุมากกว่า 60 ปี 2,000 เยน
  • อายุ7 – 15 ปี 12,00 เยน
  • อายุ 4 – 6 ปี 600 เยน
  • อายุต่ำกว่า 3 ปี ไม่เสียค่าใช้จ่าย

เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน เวลา 10.00 น. – 20.00 น.

วิธีเดินทางไป: ลงรถไฟที่สถานี Osakako Station เดินไปอีกประมาณ 5 นาที

เบอร์ติดต่อ : +81 6-6576-5501

Website: http://www.kaiyukan.com/language/eng/index.html

บรรยากาศรอบวัดเมืองนารา Japan

เมืองนาราประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นเมืองขึ้นชื่อในเรื่องของกวางอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเมืองนารา หลังจากไหว้พระขอพรวัดดังในเมืองนาราหลายที่แล้ว นิยมจะออกมาเดินเล่นตามสวนสาธารณะ บริเวณใกล้ๆวัด อย่างเช่นที่ วัดโทไดจิ Todaiji Temple ก็จะมีส่วนสาธารณะขนาดใหญ่และป่าไม้ต้นไม้โดยรอบวัด ทำให้มีกวาง จำนวนมากอยู่อาศัย นักท่องเที่ยวก็มักนิยมถ่ายรูปคู่กับกวาง ให้อาหารกวาง และเล่นกับกวาง เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กๆที่มาเที่ยวก็จะตื่นเต้นกับฝูงกวางจำนวนมากบริเวณนั้น

นอกจากนี้ยังมีสัตว์ชนิดอื่นอีก แต่ที่เห็นชัดว่ามีแน่นอนและให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังเวลาเดินเที่ยวชมก็คือ หมูป่า เพราะจะมีการติดป้ายให้ระวังอันตรายจากหมูป่าด้วย แสดงให้เห็นว่าเมืองนารา แม้ว่าจะเป็นเมืองเล็กๆในญี่ปุ่น แต่ก็ยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแหล่งธรรมชาติที่สามารถช่วยให้สัตว์ป่าประเภทต่างๆอาศัยอยู่ได้ หลังจากไหว้พระขอพรจากวัดดังที่นารานักท่องเที่ยวยังได้ซึมซับบรรยากาศธรรมชาติโดยเฉพาะฝูงกวางจำนวนมากอีกด้วย มีเพื่อนชาวญี่ปุ่นบอกว่า ความจริงแล้ว Nara ภาษาญี่ปุ่นนั้นก็แปลว่ากวาง ดังนั้นเมืองนี้ชื่อนาราก็เนื่องมาจากเป็นเมืองที่มีกวางอาศัยอยู่มากนั่นเอง

ชิงช้าสวรรค์ HEP Five กลางโอซาก้า

HEP Five เป็นชิงช้าสวรรค์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโอซาก้า ท่ามกลางห้างสรรพสินค้าชื่อดังน้อยใหญ่ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนโอซาก้ามักนิยมมานั่งเพื่อชมวิวโดยรอบของเมืองโอซาก้า โดยชิงช้าสวรรค์นี้มีความสูง 75 เมตร มีกระเช้า ทั้งหมด 52 กระเช้า โดยแต่ละกระเช้าสามารถนั่งได้ประมาณ 4 คน ถ้านักท่องเที่ยวมากลุ่มเล็กๆแบบครอบครัวก็จะทำให้ได้นั่งพอดี สำหรับระยะเวลาในการนั่งกระเช้าในการหมุนหนึ่งรอบประมาณ 15 นาที ก็ถือว่าไม่นานมาก เพราะบริเวณอาคารใกล้เคียงที่เชื่อมต่อกับ HEP five นี้มีห้างสรรพสินค้ามากมาย เหมาะแก่การเดินเล่น ซื้อของ รวมไปถึงร้านอาหารที่น่าลองชิมอีกเป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้ที่ตั้งใจจะมานั่งชิงช้าสวรรค์ดังกล่าวสามารถทำกิจกรรมอย่างอื่นได้อีกด้วย เรียกได้ว่ามาที่เดียวครบ จบในการวางแผนเที่ยวในวันนั้นได้เลย

สถานที่: ชิงช้าสวรรค์ HEP Five

เบอร์ติดต่อ: +81 6-6313-0501

เวลาเปิด-ปิด: 11.00 – 22.00 น.

ค่าเข้าชม: 500 เยน

วิธีเดินทาง: เดิน 5 นาที จาก subway Tanimachi Line Higashi-Umeda Stn.

Website: http://www.hepfive.jp/language/

ระหว่างทางเดินไปวัดเงิน Ginkakuji Temple

เกียวโตประเทศญี่ปุ่นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีวัดดังมากมายที่น่าสนใจและอีกหนึ่งวัดดังที่แนะนำว่าควรไป โดยเฉพาะในช่วงดอกซากุระบานแล้วล่ะก็ต้องไปที่ วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) หรือ วัดเงิน นั่นเองเพราะวัดแห่งนี้นอกจากมีชื่อเสียงในด้านแบบฉบับวัดดั้งเดิมแบบญี่ปุ่นโบราณที่สวยงามแล้ว ระหว่างการเดินทางไปยังวัดเงิน ในละแวกใกล้เคียงกันนั้นก็ยังมีทางเดินแห่งนักปราชญ์หรือบางคนก็เรียกว่าทางเดินแห่งซากุระรอบๆด้วย

ซึ่งทางเดินแห่งนักปราชญ์นี้มีคนบอกว่าเป็นแหล่งที่รวมต้นซากุระไว้กว่าร้อยต้น ดังนั้นถือว่าเป็นอีกจุกไฮไลท์สำคัญสำหรับการมาเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงเดือนแห่งซากุระบานด้วย โดยจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาเที่ยวชมดอกไม้ ถ่ายรูป ณ ที่สถานที่แห่งนี้ เหมือนได้เดินทางมายังจุดเดียวแต่ได้เที่ยวถึงสองต่อ อย่างไรก็ตามนอกจาก วัดเงิน ดอกซากุระที่สวยงาม นักท่องเที่ยวมาเก็บภาพโดยรอบแล้ว รอบๆพื้นที่ก็ยังมีร้านค้า ของที่ระลึก ร้านขนม ชาเขียว เสื้อผ้าแบบชาวญี่ปุ่นพื้นเมืองด้วย ถ้าใครมาเที่ยวก็ถือว่าเดินชมเพลินตาสบายใจ และมีความสุขกับบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่น ดังนั้นใครมีแผนไปเกียวโตลองจดวัดเงินเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวไว้ในแผนเที่ยวญี่ปุ่นก็ได้นะ

สถานที่: วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) หรือ วัดเงิน

วิธีเดินทาง:เดิน 30 นาที จาก Demachiyanagi Station สาย Keihan Railway  หรือ นั่งรถบัสสาย 100 มาลงที่ สถานีรถบัสป้าย Ginkakuji-mae แล้วเดินจากป้ายไป 5 นาที

เวลาเปิด-ปิด:

  • 30 น. – 17.00 น. (มีนาคม-พฤศจิกายน)
  • 00 น. – 16.00 น. (ธันวาคม-กุมภาพันธ์)

ค่าเข้าชม : 500 เยน

เบอร์ติดต่อ : +81 75-771-5725

ไปกิน Kannonya Cheese Cake ที่โกเบกัน @Japan

เมืองโกเบ นอกจากขึ้นชื่อในเรื่องเรื่องเนื้อวัวสุดเลิศรสแล้วยังมีของอร่อยอีกหลายอย่างมากมาย ซึ่งวันนี้เราขอแนะนำ ชีสโกเบ ยิ่งถ้าใครได้มาเที่ยว ย่านโกเบฮาร์เบอร์แลนด์ (Kobe Harborland) อย่าลืมแวะมาชิมชีสเค้กที่ร้าน Kannonya Cheese Cake เพราะร้านนี้เป็นร้านที่มีชื่อเสียงในด้านชีสเค้กและขนมหวานอันดับต้นๆแห่งเมืองโกเบเลย ซึ่งเราก็ได้แวะไปชิมมา บอกได้เลยว่าอร่อยมากจริงๆ โดยเฉพาะชีสเค้กที่นี่อร่อยสมคำล่ำลือ ชีสมีลักษณะนุ่มๆยืดๆ สุดๆไปเลยคอชีสห้ามพลาดเลยล่ะ ตามลายแทงไปได้เลยด้านล่าง ใครจะไปโกเบจดใส่แผนเที่ยวไว้ได้เลย

สถานที่ : Kannonya Cheese Cake Harborland
ที่อยู่ : Japan, 〒650-0044 Hyōgo Prefecture, Kobe, Chuo, Higashikawasakicho, 1−6−1 ウミエ モザイク
เบอร์ติดต่อ : +81 78-360-1537
Website : http://www.kannonya.co.jp/index.php

บรรยากาศโดยรอบปราสาทโอซาก้า

ถ้าใครไปเที่ยวโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่นต้องได้แวะไปเที่ยวปราสาทโอซาก้าอย่างแน่นอน เพราะปราสาทโอซาก้า หรือ Osaka Castle ถือเป็น Land Mark ที่สำคัญของเมืองโอซาก้าเลยก็ว่าได้ โดยปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโอซาก้า เป็นสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ให้มาเยี่ยมชม ซึ่งเราได้มีโอกาสได้ไปเที่ยวเช่นกันจึงเก็บภาพ บรรยากาศโดยรอบระหว่างเดินทางขึ้นไปเยี่ยมชมปราสาทโอซาก้ามาฝาก เพราะหลายคนที่ยังไม่เคยไปอาจจะคิดว่า ปราสาทโอซาก้าที่ไปเที่ยวกัน น่าจะติดรถไฟใกล้นิดเดียว เลยเขียนแผนเที่ยวเผื่อเวลาไว้แบบนิดเดียว แต่ความเป็นจริงแล้วถ้าคุณอยากจะไปให้ถึงปราสาทโอซาก้าจริงๆดื่มด่ำบรรยากาศโดยรอบ อาจจะต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะเอาง่ายๆ กว่าจะเดินทางจากรถไฟและสวนด้านล่าง ขึ้นไปยังปราสาทก็ใช้เวลาพอควรแล้ว แล้วถ้าใครมาหน้าร้อนแบบเราก็จะร้อนหน่อยๆนะถือว่ามาออกกำลังกายละกัน

ที่บริเวณโดยรอบมีขนาดกว้าง และที่ตั้งของปราสาทโอซาก้าก็จะอยู่สูง เพราะเป็นทำเลที่ตั้งและกลยุทธ์ของการรบในสมัยโบราณที่สร้างปราสาทไว้สูง เพื่อเป็นจุดแข็งถ้าหากมีการรบ หรือมีสงคราม ที่ตั้งแบบนี้จะได้เปรียบนั่นเอง สำหรับบรรยากาศโดยรอบปราสาทโอซาก้าในวันพักผ่อนก็จะมีทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ ต่างมาเที่ยวชม และพักผ่อน รวมถึงมีร้านค้าขายของมากมายน่าสนใจมากไปชมภาพกัน

สถานที่: ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)
ที่อยู่: 1-1 Osakajo, Chuo, Osaka, Osaka Prefecture 540-0002, Japan

วิธีเดินทาง : ลงรถไฟสถานี Osaka Business Park Station แล้วเดินต่อไปอีก 10-15 นาที
เวลาเปิด-ปิด : 9.00 น. – 17.00 น.
ค่าเข้าชม : 540 เยน
เบอร์ติดต่อ: : +81 6-6941-3044

ย่านโดทงโบริ (Dotonbori) กับป้ายกูลิโกะยักษ์ @Japan

ใครมาโอซาก้าแล้วไม่ได้มาย่านย่านโดทงโบริ (Dotonbori) นั้นถือว่ามาไม่ถึงโอซาก้านะจะบอกให้ เพราะย่านนี้เป็นย่านใจกลางเมืองโอซาก้าที่มีร้านค้าช้อปปิ้งที่ใหญ่มาก ผู้คนมากมาย เดินกันไม่หยุด ทั้งกลางวันและกลางคืน มีแหล่งรวมร้านอาหารต่างๆมากมาย โดยเฉพาะ ทาโกยากิ ยากิโซบะ และ เนื้อปูยักษ์ ดังนั้นสถานที่แห่งนี้ห้ามพลาดเลยนะสำหรับขาช้อปและขากินทั้งหลาย

นอกจากนี้การถ่ายรูปกับป้ายกูลิโกะยักษ์ ก็เป็นธรรมเนียมไปซะแล้วสำหรับใครๆที่มาเที่ยวที่โอซาก้า จะต้องถ่ายรูปกับป้ายและชูมือพร้อมกับยกขาขึ้น เป็นเรื่องปกติมากถ้าได้เดินผ่านป้ายจะเป็นผู้คนมาถ่ายรูปกันเต็มไปหมดทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติหรือแม้แต่ชาวญี่ปุ่นด้วยกันเองก็ตาม ถ้าได้ไปเที่ยวโอซาก้าก็ห้ามพลาดแวะไปเด็ดขาดนะ

สถานที่ : ย่านโดทงโบริ (Dotonbori)
ที่อยู่: Dotonbori, Chuo, Osaka, Osaka Prefecture 542-0071, Japan

นั่งกระเช้าลอยฟ้าไปชมสวนสมุนไพรที่โกเบ

หลายคนที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นบ่อยๆ แวะกินเนื้อ ชิมชีสที่โกเบเป็นประจำ อาจจะยังไม่รู้ว่า เมืองโกเบนอกจากจะมีชื่อเสียงเรื่องเนื้อแสนอร่อย ที่เที่ยวท่าเรือต่างๆแล้ว ยังมีสวนสมุนไพรบนภูเขาที่สวยงาม เป็นที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งความตื่นตาตื่นใจของนักท่องเที่ยวที่ไปเยี่ยมชมสิ่งแรกก็คือการได้นั่งกระเช้าลอยฟ้าจากด้านล่างขึ้นไปบนภูเขานั่นเอง โดยกระเช้าที่นั่งขึ้นไปเรียกว่า กระเช้าลอยฟ้าชินโกเบ Shin-Kobe Ropeway เป็นกระเช้าขนาดกลางไม่ใหญ่มาก มีความเป็นส่วนตัวมาก เพราะเราสามารถเลือกได้ว่าจะนั่งกับกลุ่มเพื่อน ครอบครัว หรือแค่คนที่เราต้องการได้ ไม่ต้องนั่งปะปนกับคนนอก ซึ่งเราถือว่า Private ดีสำหรับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ ระหว่างทางการนั่งกระเช้า เราก็จะสามารถมองเห็นวิวรอบตัวเมืองโกเบ และภูเขารอคโคะ(Mount Rokko) ที่มีแหล่งธรรมชาติ ต้นไม้ น้ำตกต่างๆ และถ้ามาช่วงดอกซากุระบาน ก็จะเห็นดอกซากุระเต็มต้นเป็นหย่อม สีขาว สีชมพู สบายตามากๆ สำหรับการนั่งกระเช้าลอยฟ้าเพื่อขึ้นไปยังสวนสมุนไพรนั้น ใช้เวลาประมาณ 20 นาที แต่พอถึงเวลานั่งจริงๆแล้ว 20 นาทีนี่แปบเดียวมากจริงๆ ไม่ทันจะถ่ายรูปถ่ายวีดิโอเสร็จ ก็ถึงซะแล้ว เพราะฉะนั้นก็เตรียมใจกันไว้ถ้าอยากจะถ่ายรูปเก็บภาพ บรรยากาศระหว่างนั่งกระเช้าแนะนำว่า ทำกันอย่างว่องไว แต่ถ้าขาขึ้นไม่ทันจริงๆ ก็สามารถเก็บภาพกันต่อได้ตอนขาลงนะ ใครสนใจก็แวะไปได้ถ้ามีแผนจะไปเที่ยวโกเบเราแนะนำ

สถานที่ :กระเช้าลอยฟ้าชินโกเบ Shin-Kobe Ropeway
ที่อยู่: Japan, 〒650-0002 Hyōgo-ken, Kōbe-shi, Chūō-ku, Kitanocho, Yamagōri−1−4−3

เบอร์ติดต่อ: +81 78-271-1160
เวลาเปิด-ปิด: 9.30 น. – 16.45 น.
ค่าเข้าชม: นั่งไป-กลับ สำหรับผู้ใหญ่ ราคา 1,260 เยน
วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Shin-Kobe Station แล้วเดินไปอีกประมาณ 5-10 นาที สถานี Nunobiki Herb Garden Ropeway จะอยู่ใกล้กับห้าง Shin Kobe Oriental Avenue
Website: http://www.japan-ryokan.net/kobeherb/en/index1.html

โชว์ปลาทูน่ายักษ์ ที่วากายาม่า @Japan

อีกหนึ่งไฮไลท์ ที่ตลาดปลาวากายาม่า นอกจากกินอาหารทะเลสดๆ ริมทะเลแล้ว ยังมีการแสดงโชว์แล่เนื้อปลาทูน่ายักษ์ ให้ดูแบบตื่นตาตื่นใจมากๆ อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเมืองวากายาม่า ในแถบคันไซประเทศญี่ปุ่นนี้ เป็นเมืองส่งออกปลาทูน่าอันดับต้นๆของประเทศ ดังนั้นแล้วปลาทูน่าที่วากายาม่า จึงขึ้นชื่อและเป็นที่นิยมมากๆ ที่ Kuroshio Ichiba Market ตลาดปลาชื่อดังใน Marina City จึงมีการจัดแสดงโชว์แล่เนื้อปลาทูน่ายักษ์ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชม

ซึ่งการแสดงนี้จะจัดขึ้นทุกวัน วันละ 3 รอบต่อวัน ใครที่ชอบความตื่นเต้นลองแวะมาได้ บอกได้เลยว่าปลาทูน่าที่นำมาแล่โชว์นั้นตัวใหญ่มากๆ และคนที่แล่เนื้อก็โชว์การแล่ได้อย่างมืออาชีพ ขณะที่มีการโชว์นักท่องเที่ยวที่เดินชมตลาดทั้งหมดจะมายืนดูการแสดงโชว์อย่างคับคั่ง ดังนั้นเรามามีคำแนะนำว่าถ้าตั้งใจจะไปชมโชว์แล่ทูน่ายักษ์อย่าใกล้ชิด ควรดูเวลาที่โชว์เริ่ม แล้วไปยืนรอก่อน 5-10 นาที คุณก็จะได้ยืนดูในตำแหน่งที่เด่นชัดและทำเลดีที่สุด หลังจากโชว์เสร็จสิ้นแล้ว ทางร้านก็จะนำเนื้อปลาทูน่าที่แล่สดๆ มาวางจำหน่ายผู้ที่ชื่นชอบสามารถซื้อกลับไปฝากหรือย่างรับประทานได้ทันที เพราะคุณจะได้ลิ้มรสชาติของเนื้อปลาทูน่ายักษ์ สดๆ ใหม่ๆ เนื้อหวาน อร่อยมากๆเลย จดไว้ในแผนเที่ยวของคุณอีกหนึ่งที่ตามไปเที่ยวกันได้จ้า

สถานที่ : Wakayama Marina City 1527, Kemi, Wakayama-shi, Wakayama-ken, Japan
โทร: 073-448-0300 (Int+81-73-448-0300)

รอบการโชว์แล่เนื้อปลาทูน่ายักษ์ :
-11.00 น.
-12.30 น.
-15.00 น.

ค่าเข้าชม : ฟรี
Website: https://www.marinacity.com/eng/ichiba/
การเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงที่สถานี จาก Wakayamashi Station แล้วต่อรถเมล์ไปลง Marina City สุดสายได้เลย

Proudly powered by WordPress | Theme: Baskerville 2 by Anders Noren.

Up ↑