อาหารเช้าโรงแรม APA Hotel Osaka Higobashi Ekimae

ใครกำลังไปเที่ยวญี่ปุ่น โดยเฉพาะแถบคันไซ เมืองโอซาก้า แล้วกำลังมองหาที่พักดีๆ อาหารโดนๆ แล้วล่ะก็ ลองแวะมาดูที่ โรงแรม APA Hotel Osaka Higobashi Ekimae ก่อนก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเลยนะ เพราะนอกจากโรงแรมนี้จะมีเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกที่พร้อม มีที่ตั้งอยู่ติดสถานี Higobashi Station ทางออก 3 แล้ว ขอบอกว่า อาหารเช้าก็ดีงามไม่แพ้กันเลยจ้า เพราะที่ APA Hotel Osaka Higobashi Ekimae นี้จะมีบริการ อาหารเช้าบุฟเฟ่สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนและใช้บริการ จะบอกว่าอาหารเช้าบุฟเฟ่ที่โรงแรมแห่งนี้ไม่ได้มีแค่ชั้นเดียวแบบที่ไหนๆนะ ปกติเราไปพักโรงแรมทั่วไปก็มีพื้นที่รับประทานอาหารเช้าแค่โซนเดียว ในขณะที่โรงแรม APA Hotel Osaka Higobashi Ekimae มีพื้นที่รับประทานอาหารเช้าถึง 2 โซน แบ่งพื้นที่ไปเลย ว่ามีที่ชั้น 2 และมีที่ชั้น 30 นะ เราเลือกได้ด้วยว่าจะรับประทานอาหารเช้ารูปแบบไหน โดยร้านอาหารเช้าบุฟเฟ่ต์จะให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 7.00 น.- 10.00 น. อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่ามีร้านอาหารห้เราเลือกได้ถึง 2 ร้าน คือ

  1. LA-VERANDA อยู่ชั้น 2F: โดยจะเป็นอาหารนานาชาติ มีอาหารหลากหลายให้เลือกรับประทาน โดยเฉพาะอาหารญี่ปุ่นก็ตั้งได้ไม่จำกัด ทั้งปลา ซุป ข้าว บอกเลยว่าฟินสุดๆ ถ้าใครชอบความหลากหลายนานาชาติ เราแนะนำว่ามาร้าน LA-VERANDA รับรองตอบโจทย์ คุณสามารถนั่งรับประทานยาวๆ แบบชิวๆ ได้เลยก่อนออกไปเที่ยวต่อ
  2. Chao-Saigou อยู่ชั้น 30F: ร้านนี้จะเป็นอาหารเวียดนาม โดยเรารู้สึกว่าก็ไม่ได้แตกต่างกับร้านอาหารนานาชาติ LA-VERANDA แต่จะเน้นแนวก๋วยเตี๋ยว ซุป อาหารญวนเวียดนามเพิ่มเติมขึ้นมา เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพและชอบทานเส้น ก็แวะไปได้

โดยตอนเราไปเที่ยวญี่ปุ่นเราพักที่ APA Hotel Osaka Higobashi Ekimae 10 วันเต็มๆเลย ค่อนข้างที่จะประทับใจและฟินกับอาหารของโรงแรมเป็นพิเศษ ขนาดพัก 10 วัน ยังไม่เบื่อเลย คนที่ไปด้วยยังชอบและชมเลยว่า อาหารที่รงแรมนี้ดีมาก คุณภาพ สดใหม่ และที่สำคัญคือความหลากหลาย ถ้าคุณมาเที่ยวที่โอซก้า ไม่ได้ไปกินอาหารญี่ปุ่นร้านอื่น นอนอยู่แต่ที่โรงแรมนี้ แค่รับประทานอาหารเช้าอย่างเดียวเราก็ว่าคุ้มมากๆแล้ว ใครกำลังหารีวิวโรงแรม ที่พักและอาหารเช้าสุดคุ้ม เราก็เป็นคนนึงที่เชียร์ให้พักที่นี่นะ สนใจก็ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เว็ปไซต์ : https://www.apahotel.com/en/hotel/kansai/osakahigobashi-ekimae/

เที่ยวเกียวโตชมดอกซากุระและเทคนิคการเดินทาง

ประเทศญี่ปุ่นเป็นจุดหมายปลายทางของคนไทยหลายต่อหลายคนที่ชอบไปสัมผัสบรรยากาศที่เรียบง่าย มีวัฒนธรรมอันงดงามที่แฝงไปด้วยความอบอุ่น ผู้คนก็สุภาพเรียบร้อย อาหารก็อร่อยโดนใจไม่น้อย ขึ้นชื่อว่าประเทศญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวต่างหลงใหลกับดินแดนอาทิตย์อุทัยมากๆ

เอาล่ะมาเข้าเรื่องกันดีกว่า เราก็ได้มีโอกาสไปสัมผัสความอบอุ่นสวยงามที่ญี่ปุ่นเช่นกัน ซึ่งครั้งนี้เราได้แวะเวียนไปยังเมืองหลวงเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยวัดและประวัติศาสตร์มากมาย นั่นก็คือเมืองเกียวโตนั่นเอง

แต่ครั้งนี้เราไม่ได้จะมารีวิววัดในเกียวโตแบบคนอื่นๆ แต่เราได้เก็บภาพบรรยากาศและดอกซากุระมาฝากมากมาย ถ้าใครที่เคยได้ไปเกียวโตช่วงดอกซากุระบานเต็มที่ จะต้องรู้สึกประทับใจและมีความสุขไม่น้อยกับภาพที่ได้เห็น เราจึงได้บันทึกภาพดอกซากุระมาให้ชมกัน รวมไปถึงการเดินทางในเกียวโตเพื่อไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆด้วย

 

ถ้าใครไปเกียวโตก็มักจะต้องได้ไปสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังหลายที่ ดังนี้

  • วัดน้ำใส Kiyomizu-dera
  • ศาลเจ้ายาซากะ – Yasaka-jinja Shrine
  • กิออน ย่านเกอิชาแห่งเกียวโต – Gion
  • วัด Toji temple
  • เกียวโตทาวเวอร์ Kyoto Tower
  • ศาลเจ้า Fushimi Inari Taisha

ด้านล่างนี้เป็นแผนการเดินทางของเราซึ่งเราพักอยู่ที่ Osaka แต่เดินทางไปเที่ยว Kyoto จุดเริ่มต้นจึงเริ่มที่สถานีของโรงแรมที่เราพักนั่นก็คือ Higobashi Station จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังเกียวโตและแวะสถานที่เที่ยวชื่อดังต่างๆ    

  • ออกเดินทาง จาก Higobashi ไป Kyoto

ไป Kiyomizu-dera วัดน้ำใส (Pure Water Temple) ขึ้นรถเมล์ เดินประมาณ 10-15 นาที จากป้ายรถบัส Gojo-zaka หรือป้ายรถบัส Kiyomizu-michi [รถบัสสาย 100, 206]

Kyoto station – Kiyomizu-Gojo Station [ Keihan Railway Line]

ไปศาลเจ้ายาซากะ (Yasaka-jinja Shrine) : Kiyomizu Gojo Station – Gion-shijo Station

จากศาลเจ้ายาซากะ – Yasaka-jinja Shrine เดินไป กิออน ย่านเกอิชาแห่งเกียวโต – Gion หาอะไรกินแถวนี้

ไปวัด Toji temple : Gion-shijo Station – Toji Station

ไปเกียวโตทาวเวอร์ Kyoto Tower : Toji Station – Kyoto station

ไปศาลเจ้า Fushimi Inari Taisha สามารถลงที่สถานี Inari แล้วเดินไปได้เลยอยู่ใกล้สถานีมากๆ

บรรยากาศรอบวัดเมืองนารา Japan

เมืองนาราประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นเมืองขึ้นชื่อในเรื่องของกวางอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเมืองนารา หลังจากไหว้พระขอพรวัดดังในเมืองนาราหลายที่แล้ว นิยมจะออกมาเดินเล่นตามสวนสาธารณะ บริเวณใกล้ๆวัด อย่างเช่นที่ วัดโทไดจิ Todaiji Temple ก็จะมีส่วนสาธารณะขนาดใหญ่และป่าไม้ต้นไม้โดยรอบวัด ทำให้มีกวาง จำนวนมากอยู่อาศัย นักท่องเที่ยวก็มักนิยมถ่ายรูปคู่กับกวาง ให้อาหารกวาง และเล่นกับกวาง เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กๆที่มาเที่ยวก็จะตื่นเต้นกับฝูงกวางจำนวนมากบริเวณนั้น

นอกจากนี้ยังมีสัตว์ชนิดอื่นอีก แต่ที่เห็นชัดว่ามีแน่นอนและให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังเวลาเดินเที่ยวชมก็คือ หมูป่า เพราะจะมีการติดป้ายให้ระวังอันตรายจากหมูป่าด้วย แสดงให้เห็นว่าเมืองนารา แม้ว่าจะเป็นเมืองเล็กๆในญี่ปุ่น แต่ก็ยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแหล่งธรรมชาติที่สามารถช่วยให้สัตว์ป่าประเภทต่างๆอาศัยอยู่ได้ หลังจากไหว้พระขอพรจากวัดดังที่นารานักท่องเที่ยวยังได้ซึมซับบรรยากาศธรรมชาติโดยเฉพาะฝูงกวางจำนวนมากอีกด้วย มีเพื่อนชาวญี่ปุ่นบอกว่า ความจริงแล้ว Nara ภาษาญี่ปุ่นนั้นก็แปลว่ากวาง ดังนั้นเมืองนี้ชื่อนาราก็เนื่องมาจากเป็นเมืองที่มีกวางอาศัยอยู่มากนั่นเอง

วัดน้ำใส (Kiyomizu-dera) ในวันซากุระบาน @Japan

ใครไปเกียวโตแล้วไม่ได้ไปเที่ยววัดน้ำใสหรือ วัดคิโยะมิซุ (Kiyomizu-dera) นั้นถือว่าเชยมากสำหรับคนไปเที่ยวญี่ปุ่นในแถบคันไซ เพราะวัดแห่งนี้เป็นวัดที่มีชื่อเสียงมาก และดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นอันดับต้นๆของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ เนื่องด้วยประวัติความเป็นมาที่โด่งดังถึงน้ำสายน้ำอันศักดิ์สิทธิ์แล้ว สถานที่แห่งนี้ยังการันตีด้วย UNESCO ที่บันทึกไว้เป็นหนึ่งในมรดกโลกอีกด้วย ซึ่งช่วงที่เราไปเที่ยวมาก็เป็นช่วงที่ดอกซากุระบานสะพรั่ง ภายในวัดนี้เต็มไปด้วยต้นซากุระที่สวยงาม ยิ่งทำให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าไปอีก ทำให้มีผู้คนนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชมกันอย่ามากมาย นอกเหนือไปจากนี้ระหว่างการเดินทางขึ้นไปยังวัดน้ำใส ก็มีธรรมเนียมการแต่งกายด้วยชุดโบราณญี่ปุ่น โดยเฉพาะกิมโมโน ซามูไร ดังนั้นทำให้การเดินขึ้นไปยังวัดไม่น่าเบื่อ เพราะเราจะพบผู้คนทั้งต่างชาติและแม้แต่คนญี่ปุ่นเองแต่งชุดโบราณญี่ปุ่น สวยงามเดินสวนเป็นระยะๆ หรือเดินทางไปพร้อมๆกันก็มี

สถานที่ : Kiyomizu-dera วัดน้ำใส (Pure Water Temple)

ที่อยู่: 1-294 Kiyomizu, Higashiyama-ku, Kyoto

ค่าเข้าชม: 300 เยน

เวลาเปิด-ปิด: 6:00 – 18:00 น.

วิธีเดินทาง: ลงที่สถานี Kiyomizu-Gojo Station แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 20 นาที

เบอร์ติดต่อ: +81 75-551-1234

ระหว่างทางเดินไปวัดเงิน Ginkakuji Temple

เกียวโตประเทศญี่ปุ่นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีวัดดังมากมายที่น่าสนใจและอีกหนึ่งวัดดังที่แนะนำว่าควรไป โดยเฉพาะในช่วงดอกซากุระบานแล้วล่ะก็ต้องไปที่ วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) หรือ วัดเงิน นั่นเองเพราะวัดแห่งนี้นอกจากมีชื่อเสียงในด้านแบบฉบับวัดดั้งเดิมแบบญี่ปุ่นโบราณที่สวยงามแล้ว ระหว่างการเดินทางไปยังวัดเงิน ในละแวกใกล้เคียงกันนั้นก็ยังมีทางเดินแห่งนักปราชญ์หรือบางคนก็เรียกว่าทางเดินแห่งซากุระรอบๆด้วย

ซึ่งทางเดินแห่งนักปราชญ์นี้มีคนบอกว่าเป็นแหล่งที่รวมต้นซากุระไว้กว่าร้อยต้น ดังนั้นถือว่าเป็นอีกจุกไฮไลท์สำคัญสำหรับการมาเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงเดือนแห่งซากุระบานด้วย โดยจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาเที่ยวชมดอกไม้ ถ่ายรูป ณ ที่สถานที่แห่งนี้ เหมือนได้เดินทางมายังจุดเดียวแต่ได้เที่ยวถึงสองต่อ อย่างไรก็ตามนอกจาก วัดเงิน ดอกซากุระที่สวยงาม นักท่องเที่ยวมาเก็บภาพโดยรอบแล้ว รอบๆพื้นที่ก็ยังมีร้านค้า ของที่ระลึก ร้านขนม ชาเขียว เสื้อผ้าแบบชาวญี่ปุ่นพื้นเมืองด้วย ถ้าใครมาเที่ยวก็ถือว่าเดินชมเพลินตาสบายใจ และมีความสุขกับบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่น ดังนั้นใครมีแผนไปเกียวโตลองจดวัดเงินเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวไว้ในแผนเที่ยวญี่ปุ่นก็ได้นะ

สถานที่: วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) หรือ วัดเงิน

วิธีเดินทาง:เดิน 30 นาที จาก Demachiyanagi Station สาย Keihan Railway  หรือ นั่งรถบัสสาย 100 มาลงที่ สถานีรถบัสป้าย Ginkakuji-mae แล้วเดินจากป้ายไป 5 นาที

เวลาเปิด-ปิด:

  • 30 น. – 17.00 น. (มีนาคม-พฤศจิกายน)
  • 00 น. – 16.00 น. (ธันวาคม-กุมภาพันธ์)

ค่าเข้าชม : 500 เยน

เบอร์ติดต่อ : +81 75-771-5725

ไปกิน Kannonya Cheese Cake ที่โกเบกัน @Japan

เมืองโกเบ นอกจากขึ้นชื่อในเรื่องเรื่องเนื้อวัวสุดเลิศรสแล้วยังมีของอร่อยอีกหลายอย่างมากมาย ซึ่งวันนี้เราขอแนะนำ ชีสโกเบ ยิ่งถ้าใครได้มาเที่ยว ย่านโกเบฮาร์เบอร์แลนด์ (Kobe Harborland) อย่าลืมแวะมาชิมชีสเค้กที่ร้าน Kannonya Cheese Cake เพราะร้านนี้เป็นร้านที่มีชื่อเสียงในด้านชีสเค้กและขนมหวานอันดับต้นๆแห่งเมืองโกเบเลย ซึ่งเราก็ได้แวะไปชิมมา บอกได้เลยว่าอร่อยมากจริงๆ โดยเฉพาะชีสเค้กที่นี่อร่อยสมคำล่ำลือ ชีสมีลักษณะนุ่มๆยืดๆ สุดๆไปเลยคอชีสห้ามพลาดเลยล่ะ ตามลายแทงไปได้เลยด้านล่าง ใครจะไปโกเบจดใส่แผนเที่ยวไว้ได้เลย

สถานที่ : Kannonya Cheese Cake Harborland
ที่อยู่ : Japan, 〒650-0044 Hyōgo Prefecture, Kobe, Chuo, Higashikawasakicho, 1−6−1 ウミエ モザイク
เบอร์ติดต่อ : +81 78-360-1537
Website : http://www.kannonya.co.jp/index.php

ศาลเจ้าเทพเจ้าจิ้งจอก (Fushimi Inari Shrine) ยามค่ำคืนที่ญี่ปุ่น

ใครที่ไปเที่ยวเกียวโตแล้วส่วนใหญ่จะต้องแวะไปศาลเจ้าเทพเจ้าจิ้งจอก (Fushimi Inari Shrine)ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่นักท่องเที่ยวทุกรายต้องไปเยือน ไปเดินเยี่ยมชมและถ่ายรูปกับเสาสีแดงเรียงรายขึ้นไปภูเขา และเชื่อว่าภาพถ่ายคนที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นหลายคนจะต้องมีถ่ายรูปคู่กับเสาสีแดงแน่นอน สำหรับศาลเจ้าเทพเจ้าจิ้งจอกอินาริ Fushimi Inari Shrine นั้นตั้งอยู่ ใกล้กับสถานีรถไฟ Fushimi Inari เดินทางง่ายสะดวก และที่สำคัญคือเข้าชมฟรี

งานนี้เราเลยแวะไปเที่ยวบ้างแต่ขอแหวกแนวไปยามค่ำคืนแทน แล้วก็ได้ภาพศาลเจ้าเทพเจ้าจิ้งจอกอินาริ ตอนกลางคืนที่ดูขลังไปอีกแบบและเชื่อไหมว่าไม่ใช่แค่เราเท่านั้นไปเยี่ยมชมในยามค่ำคืน แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวหลายกลุ่มเลือกจะไปถ่ายรูปตอนกลางคืนเช่นเดียวกัน ถ้าใครสนใจก็ไปกันได้ตามรายละเอียดด้านล่างเช่นเดิม แต่ใครจะไปตอนกลางวันหรือกลางคืนก็ได้รูปสวยต่างกันออกไป
การเดินทาง : ศาลเจ้าจิ้งจอกแดงอยู่ด้านหน้าสถานี JR Inari ในสาย JR Nara Line หรือจะเดินจากสถานีรถไฟ Fushimi Inari ของสาย Keihan Main Line ก็ได้เหมือนกัน

Website: http://inari.jp/
ค่าเข้าชม: ฟรี

ย่านโดทงโบริ (Dotonbori) กับป้ายกูลิโกะยักษ์ @Japan

ใครมาโอซาก้าแล้วไม่ได้มาย่านย่านโดทงโบริ (Dotonbori) นั้นถือว่ามาไม่ถึงโอซาก้านะจะบอกให้ เพราะย่านนี้เป็นย่านใจกลางเมืองโอซาก้าที่มีร้านค้าช้อปปิ้งที่ใหญ่มาก ผู้คนมากมาย เดินกันไม่หยุด ทั้งกลางวันและกลางคืน มีแหล่งรวมร้านอาหารต่างๆมากมาย โดยเฉพาะ ทาโกยากิ ยากิโซบะ และ เนื้อปูยักษ์ ดังนั้นสถานที่แห่งนี้ห้ามพลาดเลยนะสำหรับขาช้อปและขากินทั้งหลาย

นอกจากนี้การถ่ายรูปกับป้ายกูลิโกะยักษ์ ก็เป็นธรรมเนียมไปซะแล้วสำหรับใครๆที่มาเที่ยวที่โอซาก้า จะต้องถ่ายรูปกับป้ายและชูมือพร้อมกับยกขาขึ้น เป็นเรื่องปกติมากถ้าได้เดินผ่านป้ายจะเป็นผู้คนมาถ่ายรูปกันเต็มไปหมดทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติหรือแม้แต่ชาวญี่ปุ่นด้วยกันเองก็ตาม ถ้าได้ไปเที่ยวโอซาก้าก็ห้ามพลาดแวะไปเด็ดขาดนะ

สถานที่ : ย่านโดทงโบริ (Dotonbori)
ที่อยู่: Dotonbori, Chuo, Osaka, Osaka Prefecture 542-0071, Japan

เกียวโตทาวเวอร์ (Kyoto Tower)

เกียวโตทาวเวอร์ (Kyoto Tower) เป็นอีกจุดท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น เพราะตึกแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นหน้าเป็นตาของเมืองเกียวโต เนื่องจากมีความสูงอยู่ที่ 131 เมตร โดยถือได้ว่าเป็นตึกที่สูงที่สุดในเกียวโตก็ว่าได้ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะมาเยี่ยมชมเกียวโตทาวเวอร์โดยขึ้นไปยังจุดชมวิว ด้วยความที่เป็นตึกที่สูงที่สุดในเกียวโตจึงทำให้สามารถมองเห็นวิวต่างๆได้แบบ 360 องศสไปทั่วเมืองเกียวโต นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวก็นิยมถ่ายภาพคูกับเกียวโตทาวเวอร์ก่อนกลับ ซึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจและวิเคราะห์กันแล้วว่าถ่ายรูปออกมาสวยเห็นทั้งยอดตึกเลยนั้นก็คือที่สถานีรถไฟ Kyoto Station นั่นเอง ถ้าใครได้ไปแล้วอยากได้ภาพสวยๆก็ลองไปกันได้ เพราะสะดวกมาก ยิ่งถ้าใครรีบๆไม่มีเวลาแต่อยากถ่ายรูปคู่กับตึกเกียวโตทาวเวอร์เราแนะนำมากสะดวกรวดเร็วได้ภาพสวยให้แวะมาได้ที่สถานีนี้

สถานที่: เกียวโตทาวเวอร์ (Kyoto Tower)
ที่อยู่: Japan, 〒600-8216 京都府京都市下京区 烏丸通七条下ル東塩小路町 721-1

วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟไปลงที่สถานที่ Kyoto Station
เวลาเปิด-ปิด: : 9.00 – 21.00 น.
ค่าเข้าชม : 770 เยน
เบอร์ติดต่อ: +81 75-361-3215

Proudly powered by WordPress | Theme: Baskerville 2 by Anders Noren.

Up ↑