เที่ยวเกียวโตชมดอกซากุระและเทคนิคการเดินทาง

ประเทศญี่ปุ่นเป็นจุดหมายปลายทางของคนไทยหลายต่อหลายคนที่ชอบไปสัมผัสบรรยากาศที่เรียบง่าย มีวัฒนธรรมอันงดงามที่แฝงไปด้วยความอบอุ่น ผู้คนก็สุภาพเรียบร้อย อาหารก็อร่อยโดนใจไม่น้อย ขึ้นชื่อว่าประเทศญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวต่างหลงใหลกับดินแดนอาทิตย์อุทัยมากๆ

เอาล่ะมาเข้าเรื่องกันดีกว่า เราก็ได้มีโอกาสไปสัมผัสความอบอุ่นสวยงามที่ญี่ปุ่นเช่นกัน ซึ่งครั้งนี้เราได้แวะเวียนไปยังเมืองหลวงเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยวัดและประวัติศาสตร์มากมาย นั่นก็คือเมืองเกียวโตนั่นเอง

แต่ครั้งนี้เราไม่ได้จะมารีวิววัดในเกียวโตแบบคนอื่นๆ แต่เราได้เก็บภาพบรรยากาศและดอกซากุระมาฝากมากมาย ถ้าใครที่เคยได้ไปเกียวโตช่วงดอกซากุระบานเต็มที่ จะต้องรู้สึกประทับใจและมีความสุขไม่น้อยกับภาพที่ได้เห็น เราจึงได้บันทึกภาพดอกซากุระมาให้ชมกัน รวมไปถึงการเดินทางในเกียวโตเพื่อไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆด้วย

 

ถ้าใครไปเกียวโตก็มักจะต้องได้ไปสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังหลายที่ ดังนี้

  • วัดน้ำใส Kiyomizu-dera
  • ศาลเจ้ายาซากะ – Yasaka-jinja Shrine
  • กิออน ย่านเกอิชาแห่งเกียวโต – Gion
  • วัด Toji temple
  • เกียวโตทาวเวอร์ Kyoto Tower
  • ศาลเจ้า Fushimi Inari Taisha

ด้านล่างนี้เป็นแผนการเดินทางของเราซึ่งเราพักอยู่ที่ Osaka แต่เดินทางไปเที่ยว Kyoto จุดเริ่มต้นจึงเริ่มที่สถานีของโรงแรมที่เราพักนั่นก็คือ Higobashi Station จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังเกียวโตและแวะสถานที่เที่ยวชื่อดังต่างๆ    

  • ออกเดินทาง จาก Higobashi ไป Kyoto

ไป Kiyomizu-dera วัดน้ำใส (Pure Water Temple) ขึ้นรถเมล์ เดินประมาณ 10-15 นาที จากป้ายรถบัส Gojo-zaka หรือป้ายรถบัส Kiyomizu-michi [รถบัสสาย 100, 206]

Kyoto station – Kiyomizu-Gojo Station [ Keihan Railway Line]

ไปศาลเจ้ายาซากะ (Yasaka-jinja Shrine) : Kiyomizu Gojo Station – Gion-shijo Station

จากศาลเจ้ายาซากะ – Yasaka-jinja Shrine เดินไป กิออน ย่านเกอิชาแห่งเกียวโต – Gion หาอะไรกินแถวนี้

ไปวัด Toji temple : Gion-shijo Station – Toji Station

ไปเกียวโตทาวเวอร์ Kyoto Tower : Toji Station – Kyoto station

ไปศาลเจ้า Fushimi Inari Taisha สามารถลงที่สถานี Inari แล้วเดินไปได้เลยอยู่ใกล้สถานีมากๆ

วัดน้ำใส (Kiyomizu-dera) ในวันซากุระบาน @Japan

ใครไปเกียวโตแล้วไม่ได้ไปเที่ยววัดน้ำใสหรือ วัดคิโยะมิซุ (Kiyomizu-dera) นั้นถือว่าเชยมากสำหรับคนไปเที่ยวญี่ปุ่นในแถบคันไซ เพราะวัดแห่งนี้เป็นวัดที่มีชื่อเสียงมาก และดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นอันดับต้นๆของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ เนื่องด้วยประวัติความเป็นมาที่โด่งดังถึงน้ำสายน้ำอันศักดิ์สิทธิ์แล้ว สถานที่แห่งนี้ยังการันตีด้วย UNESCO ที่บันทึกไว้เป็นหนึ่งในมรดกโลกอีกด้วย ซึ่งช่วงที่เราไปเที่ยวมาก็เป็นช่วงที่ดอกซากุระบานสะพรั่ง ภายในวัดนี้เต็มไปด้วยต้นซากุระที่สวยงาม ยิ่งทำให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าไปอีก ทำให้มีผู้คนนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชมกันอย่ามากมาย นอกเหนือไปจากนี้ระหว่างการเดินทางขึ้นไปยังวัดน้ำใส ก็มีธรรมเนียมการแต่งกายด้วยชุดโบราณญี่ปุ่น โดยเฉพาะกิมโมโน ซามูไร ดังนั้นทำให้การเดินขึ้นไปยังวัดไม่น่าเบื่อ เพราะเราจะพบผู้คนทั้งต่างชาติและแม้แต่คนญี่ปุ่นเองแต่งชุดโบราณญี่ปุ่น สวยงามเดินสวนเป็นระยะๆ หรือเดินทางไปพร้อมๆกันก็มี

สถานที่ : Kiyomizu-dera วัดน้ำใส (Pure Water Temple)

ที่อยู่: 1-294 Kiyomizu, Higashiyama-ku, Kyoto

ค่าเข้าชม: 300 เยน

เวลาเปิด-ปิด: 6:00 – 18:00 น.

วิธีเดินทาง: ลงที่สถานี Kiyomizu-Gojo Station แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 20 นาที

เบอร์ติดต่อ: +81 75-551-1234

ไหว้พระใหญ่องค์โตที่นารา Japan

นาราเป็นเมืองเล็กที่ติดกับเมืองเกียวโตในแถบคันไซประเทศญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวหลายคนนิยมมาเที่ยวเกียวโตและแวะมาที่นาราเพราะอยู่ใกล้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่นาราจะมีวัดที่ชื่อว่า วัดโทไดจิ Todaiji temple เป็นวัดที่มีขนาดใหญ่มาก และมีที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ยักษ์มาก พระพุทธรูปองค์นี้ทำจากสำริด มีความสูง 16 เมตร มีน้ำหนักถึง 500 ตัน และยังเป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

คนไทยเราก็มักจะเรียกว่าพระใหญ่องค์โต แห่งเมืองนารา แน่นอนว่าวัดแห่งนี้ก็เป็นอีกจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่นิยมเดินทางมากราบไหว้สักการะบูชาและเก็บภาพ ยิ่งไปกว่านั้นสำหรับนักแสวงบุญชาวพุทธก็นิยมมาไหว้และพยายามรอดเสาทางด้านซ้ายของพระใหญ่ต้นหนึ่งที่ถูกเจาะรูไว้ โดยรูของเสาดังกล่าวนั้นมีขนาดเท่ากับจมูกของประใหญ่ เพราะเชื่อกันว่าถ้าใครสามารถรอดผ่านรูนี้ได้ก็จะได้บรรลุนิพาน หรือบ้างก็บอกว่าจะทำให้คำอธิฐานนั้นๆเป็นจริง ทำให้ที่เสาดังกล่าวมักจะมีผู้คนรวมไปถึงนักท่องเที่ยวมายื่นต่อแถวเพื่อให้ได้รอดรูเสาต้นนี้นั่นเอง

สถานที่: วัดโทไดจิ (Todaiji Temple)
วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Kintetsu Nara Station แล้วเดินไปอีกประมาณ 25 นาที
เวลาเปิด-ปิด: 8:00 – 17:00 น.
ค่าเข้าชม: 500 เยน

ไหว้วัดเจ้าแม่กวนอิมพันองค์ @Japan

ที่เที่ยวในเกียวโตอีกแห่งหนึ่ง ที่เราอยากจะแนะนำให้เขียนไว้ในแผนเที่ยวญี่ปุ่นก็คือ Sanjusangendo Temple หรือ วัดซันจูซันเก็นโด เป็นวัดที่มีการตกแต่งแบบญี่ปุ่นแท้ๆและภายในวัดก็ยังมีเจ้าแม่กวนอิมที่เรียงรายสวยงามถึง 1,001 องค์ ตื่นตาตื่นใจกับนักท่องเที่ยวที่ไปไหว้ขอพรและสักการบูชาอย่างมาก แต่ก็มีข้อห้ามนะว่าห้ามบันทึกภาพเจ้าแม่กวนอิมจำนวน1,001 องค์ ถ้าหากไม่ได้รับอนุญาต เราจึงไม่ได้เก็บภาพในส่วนนั้นมาฝากนะ

ก็เราจะมีบรรยากาศระหว่างการเดินทางไปและบริเวณรอบๆวัดมาฝากทุกคน โดยภายในวัดยังมีเรื่องราวประวัติความเป็นมารวมถึงรูปปั้นของเทพแต่ละองค์อีกมากมาย ซึ่งมีความน่าสนใจและประทับใจเป็นอย่างมาก เราขอแนะนำเลยว่าถ้าใครกำลังมีแผนพาญาติผู้ใหญ่ไปเที่ยวกับแล้วล่ะก็ Sanjusangendo Temple น่าจะเป็นจุดไฮไลท์ประทับใจอย่างแน่นอน ซึ่งช่วงที่เราเดินทางไปนั้น เป็นช่วงฤดูดอกซากุระบานพอดี ดังนั้นระหว่างการเดินทางไปก็จะพบดอกซากุระสวยงาม นอกจากนี้บริเวณรอบๆวัดก็มีการจัดตกแต่งสวนสวยแบบสไตล์ญี่ปุ่น มีความเงียบสงบ เป็นธรรมชาติ มากๆ

สถานที่: Sanjusangendo Temple
ที่อยู่: 657 Sanjūsangendōmawari, Higashiyama-ku, Kyōto-shi, Kyōto-fu 605-0941, Japan

เวลาเปิด-ปิด : 8:00 – 17:00 น.
วิธีเดินทางไป: ขึ้นรถไฟใต้ดินไปลงสถานี Shichijo Station [Keihan Line] หรือ สถานี Kyoto station แล้วเดินไปทางทิศตะวันออกประมาณ 1.5 กิโลเมตร
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 600 เยน , เด็ก 400 เยน
เบอร์ติดต่อ: +81 75-561-0467

ไปเที่ยว Kinkakuji temple ที่เกียวโตกัน

ใครไปเที่ยวญี่ปุ่นอย่าลืมแวะไปเที่ยววัดทอง หรือวัด Kinkakuji temple ที่เกียวโต เพราะสถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ มีประวัติความเป็นมาและความสวยงามของตัววัดทอง คนที่ไปต่างก็ประทับใจกับการเดินชมบริเวณรอบๆวัด และได้ถ่ายภาพเก็บบรรยากาศ เพราะเราสามารถเที่ยว Kinkakuji temple ได้ทุกฤดู โดยแต่ละฤดูก็จะมีความสวยงามต่างกัน เช่นฤดูหนาวก็จะเห็นหิมะปกคลุมตัววัดสีทอง แต่ถ้าฤดูใบไม้สีแดงก็จะเห็นสีของวัดทองตัดกับเหล่าใบไม้สีแดง และถ้าในช่วงซากุระก็จะเห็นความอ่อนโยนของสีดอกซากุระที่ดูอบอุ่นไปกับวัดสีทอง นอกจากนี้มีหลายคนพูดว่า วัด Kinkakuji นั้นเป็นวัดของท่านโชกุนในการ์ตูนอิกคิวซังด้วยด้วยนะ

สำหรับด้านการเดินทางนั้นถ้าใครมาจากวัด Ginkakuji ให้ขึ้นรถบัสที่ป้าย Ginkakuji-michi สาย 102, 204 แล้วไปลงที่ป้าย Kinkakuji-michi

ค่าเข้าชมในวัดทอง 400 เยน ต่อคน

วัดหวังต้าเซียนที่ฮ่องกง Wong Tai Sin Temple

หากใครไปเที่ยวฮ่องกงแล้วไม่ได้ไปวัดหวังต้าเซียนถือว่าไปไม่ถึงฮ่องกง เพราะทุกแผนเที่ยวของนักท่องเที่ยวที่ไปฮ่องกงนั้นต้องมี วัดหวังต้าเซียนอยู่ในแผนอย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นวัดที่มีชื่อเสียงในด้านขอพรความรัก ยิ่งสำหรับคนอยากขอความรัก ครองคู่รักกันยืนยาว หรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวกับความรักนั้น

ไปวัดนี้แล้วขอพรจากเทพเจ้าหยุคโหลว หรือเทพแห่งความรัก ก็จะสมหวังกันไป แต่ขั้นตอนการไหว้ก็จะมีวิธีที่พิเศษหากใครสนใจก็สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้

สำหรับการเดินทางมาวัดนี้ถือว่าสะดวกมาก เพราะนั่งรถไฟมาลงสถานี Wong Tai Sin แล้วออกทางออก B ขึ้นมาก็จะเจอ Temple Mall เดินมาอีกนิดก็จะถึงวัดหวังต้าเซียนเลย ทางเข้าหน้าวัดก็จะมีร้านขายธูปเทียนมากมายหลายร้านติดกัน เนื่องจากคนไทยไปเยอะก็มีร้านพี่คนไทยอยู่ร้านแรกเลย ใครไปก็ไปอุดหนุนคนไทยด้วยกันได้ แต่ตอนนี้ไปดูบรรยากาศวัดกันเลยจ้า

วัดกังหัน Che Kung Temple ฮ่องกง

สายบุญห้ามพลาดกับการไหว้ขอพรที่ วัดกังหัน (Che kung Temple) ที่ฮ่องกง และที่นี่ก็เป็นอีกที่ที่คนไทยมาเยอะมากถึงขั้นเมนูหรือรายละเอียดการซื้อเครื่องไหว้เค้าเขียนเป็นภาษาไทยให้เราอ่านง่ายด้วยก็มี เราสามารถเดินทางไปวัดกังหันโดยนั่งรถไฟ ไปลงที่สถานี Tai Wai ออกทางออก B แล้วสังเกตุป้ายบอกทาง ไป Che Kung Temple (แชกงหมิว) ที่วัดแห่งนี้จะมีกังหันให้ผู้มาเยือนหมุนเพื่อพัดนำสิ่งดีๆมาสู่ชีวิต โดยใบพัดของกังหันนั้น มี 4 ใบ มีความหมายดังนี้

ใบที่ 1 เดินทางไปไหนมาไหนปลอดภัย
ใบที่ 2 สุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว
ใบที่ 3 โชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา
ใบที่ 4 คิดหวังสิ่งใดสมความปรารถนาทุกประการ

ใครสนใจสามารถแวะไปได้ แต่วางแผนกันดีๆนะ เพราะวัดมีช่วงเวลาเปิด 7 โมงเช้า – 4 โมงเย็น ไปชมภาพบรรยากาศวัดกันก่อน ให้รู้ว่าถ้าไปแล้วหน้าตาหน้าวัดเป็นแบบนี้จะได้ไปถูกกันนะ

ไหว้พระขอพรที่วัดหลงซาน Lungshan Temple

สำหรับชาวสายบุญหากได้ไปเที่ยวที่แห่งไหนจะต้องบวกการไหว้พระวัดดังเข้าไปในทริปเที่ยวด้วยอย่างแน่นอน ซึ่งแอดมินก็ไม่พลาดกับทริปไต้หวันนี้เช่นกัน เพราะหากใครมาไต้หวันก็อยากจะแนะนำให้มาไหว้พระขอพรที่ วัดหลงซาน Lungshan Temple เพราะที่นี่ขึ้นชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์มากๆ

นอกจากไหว้พระขอพรแล้วที่วัดหลงซาน แห่งนี้ยังมีเครื่องรางให้นักท่องเที่ยวซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านได้อีกด้วย บางคนก็ซื้อไว้เองหรือบางคนก็ซื้อไปเป็นของฝาก ซึ่งเครื่องรางที่นี่ก็จะมีสรรพคุณเฉพาะตัวแต่ละแบบกันไป บางอันเพื่อความรัก สุขภาพ การเรียน ครอบครัว ค้าขาย การงาน การเงิน หรือแม้แต่โชคดี ก็มีให้เลือก ใครสนใจลองแวะไปกันได้นะ ถ้ามีโอกาสไปเที่ยวไต้หวัน แอดมินแนะนำเลยจ้า

วิธีมาวัดหลงซานไม่ยากสะดวกมากๆ นั่งรถไฟ Blue line ลงสถานนี Longshan Temple เลยและออกทางออกที่ 1 หรือ ทางออก 3 ก็ได้ เดินแป๊บเดียวถึงเลย

Proudly powered by WordPress | Theme: Baskerville 2 by Anders Noren.

Up ↑